นางสาวปณิตา ควรสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด(มหาชน) หรือ AGE ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร ขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า เปิดเผยว่า ล่าสุดที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น มีมติให้บริษัทเข้าทำรายการซื้อหุ้นเพิ่มทุนในบริษัท เอเชีย ไบโอแมส จำกัด มหาชน (ABM) จำนวน 292,107,010 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาทในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.30 บาท
พร้อมทั้งทำคำเสนอซื้อหุ้นต่อผู้ถือหุ้นทั่วไป (Tender Offer) ใน บมจ.เอเชีย ไบโอแมสจากผู้ถือหุ้นของ ABM โดย AGE ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจพลังงานยั่งยืน(Sustainable Energy) และตั้งเป้าให้ ABM เป็น flagship ทางด้านพลังงานยั่งยืนของกลุ่มบริษัท โดยบริษัทไม่มีแผนที่จะนำ ABM ถอนตัวออกจากการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
สำหรับกระบวนการชำระค่าตอบแทนการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ ABM ในครั้งนี้ทาง AGE จะชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนด้วยการแลกหุ้น (Share Swap) ของหุ้นสามัญในบริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (QTC) จำนวน 81,860,400 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 24.00 ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและชำระแล้ว และหุ้นสามัญในบริษัทกรีน อาร์ดีเอฟ จำกัด (GRDF) จำนวน 335,497 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียน แทนการชำระด้วยเงินสด โดยคาดว่า รายการทำ Share Swap และการทำTender Offer จะแล้วเสร็จภายในปลายไตรมาส 4/2567
นอกจากนี้ ยังมีมติอนุมัติเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ทุนทำดี จำกัด จำนวน 17,997 หุ้นหรือคิดเป็นร้อยละ 44.99 ของทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว ที่ราคา 62,230,500 บาท โดยบริษัท เอจีอี เวนเจอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ AGE จะเข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 โดยซื้อหุ้นดังกล่าวจากบริษัท แอลฟ่า จี เวนเจอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ABM
“แผนการเข้าซื้อกิจการของ AGE ในครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดธุรกิจพลังงานยั่งยืน โดยABM ถือเป็นผู้นำในธุรกิจเชื้อเพลิงชีวมวล และบริษัทมุ่งหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยผลักดันภาคอุตสาหกรรมให้ไปสู่การใช้พลังงานสะอาด และภายหลังการปรับโครงสร้างธุรกิจทาง AGE จะเป็นผู้ถือหุ้นใน ABM เป็นร้อยละ 51-70 และถือหุ้นในทุนทำดี ที่ร้อยละ 100 ขณะที่ ABM จะเป็นผู้ถือหุ้นใน QTC ที่ร้อยละ 24 และ GRDF ที่ร้อยละ 100” นางสาวปณิตากล่าว
ปัจจุบัน AGE มีการดำเนินงาน 4 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย ธุรกิจถ่านหิน, ธุรกิจโลจิสติกส์, ธุรกิจพลังงานยั่งยืน และธุรกิจ Diversified Investments สัดส่วนรายได้หลักของบริษัทยังมาจากธุรกิจถ่านหินที่ 95% แต่หลังจากการเข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนใน ABM สัดส่วนรายได้จากถ่านหินของบริษัทจะลดลง จากการรับรู้รายได้ของABM ในฐานะบริษัทย่อย และบริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจที่มีความยั่งยืนจากการเพิ่มสัดส่วนรายได้ของธุรกิจโลจิสติกส์ จากกลุ่มลูกค้าภายนอกทั้งจากกลุ่มสินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรมเป็น 50% จากปัจจุบันที่ 35% ขณะที่ธุรกิจพลังงานยั่งยืน (Sustainable Energy)
บริษัทตั้งเป้าเพิ่มยอดขายเชื้อเพลิง RDF ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงจากขยะ ภายใต้บริษัทย่อยGRDF อย่างต่อเนื่อง และธุรกิจ Human Solutions (Diversified Investments) ภายใต้บริษัทย่อย “เอจีอี เวนเจอร์ หรือ AGEVT” ซึ่งได้จัดตั้งบริษัท เอจีอี อีวี พลัส จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการปล่อยเช่ารถ EV ให้กลุ่มลูกค้าที่สนใจ โดยจะเริ่มดำเนินการในไตรมาส 4/67 และบริษัท เอจีอี ออโต้ แกลลอรี่ จำกัด
ซึ่งประกอบธุรกิจดีลเลอร์ขายรถไฟฟ้า EV ในปัจจุบัน กำลังก่อสร้างโชว์รูม สองแห่ง คือOMODA & JAECOO สาขารามคำแหง และ Neta สาขาพระราม 2 คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 4/67 และ 2/68 ตามลำดับ และเริ่มรับรู้รายได้จากการขายรถในไตรมาส 4/67
“แผนการปรับโครงสร้างธุรกิจในครั้งนี้ เป็นการเริ่มต้นของบริษัทสู่การดำเนินธุรกิจที่มีความยั่งยืน และตั้งเป้าว่าในปี 2573 บริษัทจะมีสัดส่วน EBITDA มาจากธุรกิจยั่งยืน50% ธุรกิจถ่านหิน 50%”