WHA ปี 67 ตั้งเป้ากำไร 1.5 หมื่นล้านบาท ลุ้น All Time High
แรงหนุนจากยอดขายที่ดินปรับสูงขึ้นแตะ 2.5 พันไร่
.
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มองภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2567 มีแนวโน้มเติบโตได้ดีกว่าช่วงไตรมาสครึ่งปีแรกจึงได้ตั้งเป้ารายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรกว่า 15,000 ล้านบาท พร้อม EBITDA Margin สูงกว่า 50% ทั้งยังดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์และพัฒนาแนวทางธุรกิจให้สอดคล้องกับเมกะเทรนด์โลก โดยเฉพาะการย้ายฐานการผลิตและลงทุนสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ รวมถึงการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของ 2567 ของ 4 กลุ่มธุรกิจหลัก มีรายละเอียดดังนี้
1. ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมที่ถือเป็นกลุ่มนำธุรกิจในปีนี้ เนื่องจากแนวโน้มความต้องการที่ดินจากภาคอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งส่งผลให้บริษัทฯ ปรับเพิ่มประมาณการขายที่ดินจากเป้าหมายเดิมที่ 2,275 ไร่ เป็น 2,500 ไร่ โดยมูลค่าสัญญาขายที่ดินคาดว่าจะเติบโต 18 % เมื่อเทียบกับปีก่อน และครึ่งหลังปี 2567 มีเป้าหมายที่จะขายที่ดินมากกว่า 1,400 ไร่
โดยยอดขายที่ดินจากประเทศไทยจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก เนื่องจากในเวียดนามกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาที่ดินเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปี 2568 หลังจากที่มียอดขายที่ดินสูงเกินคาดในปี 2566 นอกจากยอดขายที่แข็งแกร่งแล้วบริษัทฯ ยังเดินหน้าพัฒนาที่ดินอุตสาหกรรม โดยวางแผนเพิ่มที่ดินอุตสาหกรรมเกือบ 10,000 ไร่ ในประเทศไทย เข้าสู่พอร์ตโฟลิโอในอีก 4 ปีข้างหน้า ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรมใหม่ 6 โครงการ โดยเป็นโครงการพัฒนาใหม่ 4 แห่ง และขยายพื้นที่โครงการเดิมอีก 2 แห่ง
สำหรับโครงการในเวียดนามยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง โดยเขตอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน 2 – เหงะอาน (WHA Industrial Zone 2 – Nghe An) คาดว่าจะได้รับการอนุมัติใบอนุญาตสำหรับเฟส 1 ของโครงการ บนพื้นที่ 1,200 ไร่ ภายในสิ้นปีนี้ และ WHA Smart Technology Industrial Zone 1 ในจังหวัดทาญฮว้าจะเริ่มก่อสร้างภายในสิ้นปี 2567 ในขณะที่ WHA Smart Technology Industrial Zone 2 ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดเดียวกัน มีเป้าหมายที่จะได้รับใบรับรองการลงทุน (IRC: Investment Registration Certificate) ภายในสิ้นปีนี้เช่นเดียวกัน
2. ธุรกิจโลจิสติกส์ ในปี 2567 ตั้งเป้าหมายพื้นที่ให้เช่าใหม่ และสัญญาเช่าใหม่รวม 200,000 ตารางเมตร โดยมุ่งเน้นคลังสินค้าแบบ Built-to-Suit คาดว่าครึ่งปีหลัง จะส่งมอบพื้นที่ให้เช่าใหม่มากกว่า 140,000 ตร.ม.
นอกจากนี้ การเปิดตัว โมบิลิกส์ (Mobilix) โซลูชันกรีนโลจิสติกส์ครบวงจรครั้งแรกของไทย ประกอบด้วย 3 บริการหลัก คือให้เช่ารถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และโมบิลิกส์ซอฟต์แวร์โซลูชัน (Mobilix Software Solution) โดยมีแผนดำเนินธุรกิจตาม 4 กลยุทธ์หลักคือพัฒนาพันธมิตรทางธุรกิจ (Develop Partnership) ขยายช่องทางการขาย (Expand Sale Channels) การเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ (Launch New Products) และนำเสนอข้อเสนอทางการค้าใหม่ๆ (Provide New Commercial Offerings) โดยมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าและหางลากให้เช่าเป็น 1,000 คัน ภายในสิ้นปี 2567 อีกด้วย
3. ธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ) มุ่งแสวงหาโอกาสการลงทุนในพื้นที่ใหม่ ๆ นอกเหนือจากในนิคมอุตสาหกรรมของ WHA มุ่งเน้นขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม (Value-added Water) อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ และขยายการลงทุนโรงผลิตน้ำและโรงบำบัดน้ำเสียแห่งใหม่ ในเวียดนาม ตลอดจนพัฒนาโซลูชันใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนมากขึ้น
สำหรับการเติบโตในปีนี้ ตั้งเป้ายอดขายน้ำรวมที่ 178 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความต้องการน้ำที่มากขึ้นของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม และปริมาณน้ำมูลค่าเพิ่มที่เพิ่มขึ้นจากโครงการใหม่ๆ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของน้ำในประเทศเวียดนามที่มีการเติบโตอย่างมากในปีนี้ เนื่องจากโรงงานของลูกค้าในเขตอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน 1 – เหงะอาน (WHA Industrial Zone 1 Nghe AN) เริ่มดำเนินการ และนอกจากนั้นในปี 2567 ได้ลงนามในสัญญาน้ำอุตสาหกรรมคุณภาพสูง (Premium Clarified Water) กับบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC จำนวน 3.5 ล้าน ลบ.ม. ต่อปี และสัญญาขายน้ำประปาให้แก่การประปาส่วนภูมิภาคอีก 2.6 ล้าน ลบ.ม. ต่อปี โดยทั้ง 2 สัญญาจะเริ่มมีการรับรู้รายได้ภายใน ครึ่งปีหลังของปี 2567 ทันที
4. ธุรกิจไฟฟ้า ยังคงเดินหน้าพัฒนาโซลูชันด้านพลังงาน พร้อมตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมที่ลงนามแล้วเป็น 1,000 เมกะวัตต์ ซึ่งจะมาจากพลังงานสะอาด 472 เมกะวัตต์ โดยเป็นพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof Top) 283 เมกะวัตต์ และบริษัทฯได้มุ่งต่อยอดธุรกิจพลังงานสะอาดผ่านการพัฒนานวัตกรรมและ โซลูชันด้านพลังงานใหม่ๆ อาทิ การเปิดให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งสอดรับกับแผนการลงทุนในโมบิลิกส์ (Mobilix) โดยมีเป้าหมายที่จะมีชาร์จเจอร์ 120 ตัว ในปีนี้ รวมถึงสถานีชาร์จที่ใหญ่ที่สุดในประเทศขนาดกำลังติดตั้ง 5,400 กิโลวัตต์ รวมทั้งแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจ New S-Curve เช่น ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (BESS: Battery Energy Storge System) และเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการ กักเก็บคาร์บอน (CCUS: Carbon Capture Utilization and Storage) เป็นต้น
5. ธุรกิจดิจิทัล ยกระดับองค์กรในทุกมิติเพื่อบรรลุเป้าหมายในการก้าวสู่การเป็น Technology Company ในปี 2567 และเตรียมพร้อมสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี (Tech-Driven Organization) ในปี 2568 มุ่งส่งเสริมศักยภาพของธุรกิจใน WHA Group และสร้างรายได้จากการให้บริการแพล็ตฟอร์มดิจิทัลใหม่ ๆ ควบคู่กับการพัฒนาความเชี่ยวชาญของทีมเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยตัวอย่างโครงการสำคัญที่ผ่านมา ได้แก่ โมบิลิกส์ซอฟต์แวร์โซลูชัน (Mobilix Software Solution) ที่เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลอัจฉริยะสำหรับจัดการยานพาหนะไฟฟ้าและแบตเตอรี่ WHAbit แพลตฟอร์มเพื่อให้บริการด้านสุขภาพแบบครบวงจร WHASApp: Super App ที่รวบรวมบริการครบวงจรให้แก่ลูกค้าของ WHA รวบรวมข้อมูลการใช้งานสาธารณูปโภคและพลังงานแบบเรียลไทม์ไว้ในที่เดียว เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังยกระดับประสิทธิภาพองค์กรด้วย AI อย่างต่อเนื่อง โดยพัฒนาโครงการทรานส์ฟอร์เมชั่นด้วยเทคโนโลยี AI จำนวน 12 โครงการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ลดต้นทุน และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ เช่น Solar Anomaly Detection ตรวจจับปัญหาที่เกิดขึ้นกับแผงโซลาร์เพื่อการดูแลรักษาที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ Solar Forecasting ประเมินและคาดการณ์ปริมาณแสงแดดล่วงหน้า เพื่อการวางแผนเพิ่มปริมาณการผลิตพลังงานและลดต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ และ RO Performance Forecasting ใช้ Data Analytics ในการตรวจสอบคุณภาพน้ำภายในนิคมอุตสาหกรรมเพื่อส่งเสริมการใช้ทรัพยากรน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดการสูญเสีย และสอดคล้องกับข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
“ปี 2567 เราได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการนำเทคโนโลยีมาใช้ในทุกมิติของการดำเนินงานเป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จ ด้วยรากฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง วิสัยทัศน์ WE SHAPE THE FUTURE ที่ชัดเจน พร้อมการเป็น Tech and Sustainable Company เพื่อก้าวสู่การเป็น Tech-Driven Organization ในปีหน้า เรายังคงเดินหน้าสู่อนาคตพร้อมกับเป้าหมายใหม่ ๆ ในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยและภูมิภาคอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน” คุณจรีพรกล่าว