บมจ.โชติวัฒน์อุตสาหกรรมการผลิต นำทีมร่วมรณรงค์จัดหาทุนเข้า “กองทุนพัฒนาศูนย์โรคหัวใจ รพ.หาดใหญ่”

บมจ.โชติวัฒน์อุตสาหกรรมการผลิต นำทีมร่วมรณรงค์จัดหาทุนเข้า “กองทุนพัฒนาศูนย์โรคหัวใจ รพ.หาดใหญ่” 

โครงการ Live for Life ชีวิตต่อชีวิต เพื่อจัดสร้างศูนย์โรคหัวใจ รพ.หาดใหญ่ มูลค่ากว่า 101 ลบ.


 บมจ.โชติวัฒน์อุตสาหกรรมการผลิต (หรือ CMC) ผู้ผลิตอาหารทะเลบรรจุกระป๋องและผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง โดย “สมนึก โชติวัฒนะพันธุ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นำทีมจัดทำโครงการเพื่อสังคม ภายใต้ชื่อ Live for Life ชีวิตต่อชีวิต เพื่อร่วมรณรงค์จัดหาทุนให้กับกองทุนพัฒนาศูนย์โรคหัวใจ รพ.หาดใหญ่ สนับสนุนการจัดหาเครื่องผ่าตัดและสวนหัวใจ ห้องผ่าตัด รวมถึงระบบสัญญาณภาพ  รวมมูลค่ากว่า 101 ล้านบาท รองรับการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจจากจังหวัดต่าง ๆ ทั่วภาคใต้ 


นายสมนึก โชติวัฒนะพันธุ์ เปิดเผยว่าภายหลังจากที่รับทราบข้อมูลว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลหาดใหญ่ ในฐานะโรงพยาบาลรัฐที่ให้บริการรักษาผู้ป่วยในพื้นที่จังหวัดทั่วภาคใต้ สำหรับการรักษาเฉพาะโรคหัวใจมีจำนวนมากกว่า 55,921 รายต่อปี ในขณะที่ระบบเครื่องมือและอุปกรณ์ผ่าตัดและสวนหัวใจ ที่มีอยู่เป็นเครื่องที่เก่ามากแล้วและไม่เพียงพอต่อการรักษาผู้ป่วยจำนวนมาก ทั้งนี้ CMC ได้ตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว จึงได้ร่วมสนับสนุนในการจัดตั้งกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสังคมภายใต้ชื่อโครงการ “Live for Life ชีวิตต่อชีวิต” ขึ้น เพื่อสนับสนุนการจัดหางบประมาณสำหรับจัดซื้อ เครื่องผ่าตัดและสวนหัวใจ การสร้างห้องผ่าตัด รองรับเครื่องผ่าตัดและสวนหัวใจ จำนวน 2 ห้อง รวมถึงระบบสัญญาณภาพที่ทันสมัย รวมมูลค่ากว่า 101 ล้านบาท ผ่าน “กองทุนพัฒนาศูนย์โรคหัวใจ รพ.หาดใหญ่”


นายแพทย์ไชยสิทธิ์ เทพชาตรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหาดใหญ่ กล่าวเสริมว่า โรงพยาบาลหาดใหญ่ เป็นโรงพยาบาลรัฐ ที่ให้บริการรักษาด้านโรคหัวใจกับผู้ป่วยในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะภาคใต้ตอนล่าง ได้แก่ ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ซึ่งมีอัตราผู้ป่วยนอกเข้ารับการรักษามากกว่า 1.11 ล้านครั้งต่อปี ส่วนผู้ป่วยโรคหัวใจเข้ารับการรักษามากกว่า 55,921 รายต่อปี ในขณะที่อุปกรณ์เครื่องมือสำหรับการรักษาเดิมมีอายุการใช้งานนานแล้วและไม่เพียงพอ จึงรองรับการรักษาผู้ป่วยสวนหัวใจและผ่าตัดหัวใจกลุ่มผู้ใหญ่ ได้ประมาณ 900 รายต่อปี และกลุ่มเด็ก 140 รายต่อปีเท่านั้น ทั้งนี้ หากโรงพยาบาล มีระบบเครื่องมือและอุปกรณ์เฉพาะทางที่ทันสมัย จะสามารถช่วยให้ผู้ป่วยโรคหัวใจ มีโอกาสเข้าถึงการรักษาที่มากขึ้น โดยอุปกรณ์และเครื่องผ่าตัดหัวใจใหม่ควรมี จำนวน 2 ชุด เพื่อรองรับการผ่าตัดรักษาหัวใจผู้ป่วยผู้ใหญ่และผู้ป่วยเด็ก รวมถึงการสร้างห้องผ่าตัด จำนวน 2 ห้อง และระบบสัญญาณภาพ คาดว่าต้องใช้งบประมาณราว 101 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมา มูลนิธิโรงพยาบาลหาดใหญ่ และบริษัท โชติวัฒน์อุตสาหกรรมการผลิต จำกัด (มหาชน) พร้อมผู้มีจิตศรัทธาหลายท่าน ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการจัดหางบประมาณสนับสนุน อาทิ การจัดกิจกรรมวิ่งการกุศล, การแข่งขันกอล์ฟการกุศล, กิจกรรมงานทอดผ้าป่า เป็นต้น โดยได้รับการอนุเคราะห์จากหลายภาคส่วน ทั้งส่วนราชการและภาคเอกชน ร่วมบริจาคเงินสนับสนุนเข้ามาหลายล้านบาท รวมถึงได้รับความอนุเคราะห์จากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอีก 6 จังหวัด ในการช่วยประชาสัมพันธ์โครงการและเปิดตัวโครงการ Live for Live ชีวิตต่อชีวิต คาดว่าจะสามารถจัดหางบประมาณจากการบริจาค เพื่อสนับสนุนการจัดซื้อเครื่องมือผ่าตัดและสวนหัวใจ ชุดแรกให้ได้ภายในเดือนกรกฎาคม ในขณะที่มีความเร่งด่วนในการช่วยชีวิตผู้ป่วยที่รอรับการรักษามีอยู่เป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องต่อยอดและดำเนินการจัดกิจกรรมให้กับโรงพยาบาลหาดใหญ่ในครั้งนี้ต่อไป โดยขณะนี้ มียอดบริจาคสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ แล้วประมาณ 46 ล้านบาท จากงบประมาณในการซื้อเครื่องมือผ่าตัดโรคหัวใจ สร้างห้องผ่าตัดและอุปกรณ์สื่อสารเป็นเงินประมาณ 101 ล้านบาท  


นายสมนึกโชติวัฒนะพันธุ์ กล่าวเสริมว่า “ผมก็เป็นคนไข้ที่มารักษา ใน รพ. หาดใหญ่ด้วยเช่นกัน ได้เห็นและทราบมาว่ามีผู้ป่วยที่มารักษาในแต่ละวันไม่ต่ำกว่า 3,000 คน  เตียงนอนผู้ป่วยล้นออกมาถึงริมทางเดิน จึงเกิดความตั้งใจที่อยากจะช่วยเหลือโรงพยาบาลหาดใหญ่ ให้มีเครื่องมือแพทย์เพิ่มขึ้น เพื่อให้โอกาสกับผู้ป่วยได้รับการรักษาได้เร็วขึ้นและมากขึ้น  ผมได้พบคุณหมอโรคหัวใจ คุณหมอสริราม  วิณณ์เศวต จึงได้ทราบว่ามีความต้องการเครื่องมือผ่าตัดหัวใจที่ทันสมัย เพื่อช่วยผู้ป่วยจำนวนมาก เพราะเครื่องมือที่มีอยู่เก่ามากแล้ว อีกทั้ง มีคุณหมอเพียง 2 ท่าน ซึ่งยังไม่เพียงพอ ก็ต้องเพิ่มคุณหมออีก 2-3 ท่าน จึงจะช่วยให้การรักษาทำได้เพิ่มขึ้นและรวดเร็วขึ้น รวมถึงต้องมีห้องดูแลหลังผ่าตัดจำนวน 24 เตียง โดยศูนย์โรคหัวใจโรงพยาบาลหาดใหญ่จะเป็นศูนย์ผ่าตัดหัวใจ ที่มีเครื่องมือผ่าตัด ผสานนวัตกรรมเทคโนโลยี AI อันทันสมัย มาช่วยการผ่าตัดผู้ป่วยสูงอายุ และอีกเครื่องสำหรับผ่าตัดผู้ป่วยเด็ก เราต้องใช้เครื่องมือที่ดีที่สุด เพื่อความแม่นยำในการรักษา ซึ่งทุก ๆ ปี ต้องจ่ายค่าบำรุงรักษาเครื่องมือเป็นล้านบาทต่อปี