“MAGURO” เดินหน้าขยายธุรกิจ เปิดร้าน “MAGURO” สาขา 15 ดันรายได้โตต่อเนื่อง
ในทำเลทอง พาราไดซ์ พาร์ค ศูนย์การค้าชั้นนำย่านศรีนครินทร์
บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ “MAGURO” ผู้นำร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นและเกาหลีระดับพรีเมียม-แมส ขยายธุรกิจต่อเนื่อง หลังเข้าตลาด mai ได้อย่างสวยงามเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เดินหน้าเปิดร้านอาหารญี่ปุ่น MAGURO เป็นสาขาที่ 15 ณ พาราไดซ์ พาร์ค ชั้น G รองรับลูกค้ากำลังซื้อสูงย่านศรีนครินทร์ คาดผลักดันรายได้เติบโตตามเป้า
บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ“MAGURO” รุกขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เปิดร้าน MAGURO ร้านซูชิและอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียม สาขาที่ 15 ณ พาราไดซ์ พาร์ค วันที่ 25 มิถุนายน นี้ หลังจากได้เปิดร้าน HITORI SHABU พรีเมียมชาบูและสุกี้ยากี้สไตล์คันไซต้นตำรับจากประเทศญี่ปุ่น สาขาที่ 7 ที่ พาราไดซ์พาร์ค และได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าใหม่ และกลุ่มลูกค้าที่เป็นสมาชิกของร้านอาหารอย่างล้นหลาม โดย MAGURO สาขาใหม่ มาพร้อมเมนูใหม่จากเนื้อญี่ปุ่นพรีเมียมที่เชฟมากประสบการณ์นำมารังสรรค์เป็นเมนูสไตล์ญี่ปุ่นสุดพรีเมียม ซึ่งทุกเมนูของร้านได้รับการคัดสรรวัตถุดิบชั้นยอด และมีประโยชน์ เพื่อนำมาเสิร์ฟให้กับลูกค้าทุกคน นอกจากนี้โปรโมชั่นดีๆ ที่มีให้เฉพาะสาขานี้ คือสิทธิพิเศษเฉพาะผู้ที่มี Voucher และใช้บริการ 'โรงพยาบาลรามาธิบดี สาขาศรีนครินทร์' รับทันทีส่วนลด 50% เฉพาะเมนู Saba Shioyaki หรือเมนู Teriyaki set
คุณเอกฤกษ์ แสงเสรีดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ บริษัทฯ ได้วางแผนการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดสาขาใหม่ ไม่น้อยกว่า 11 สาขาในปีนี้ โดยล่าสุด บริษัทฯได้เปิดร้านอาหาร MAGURO ร้านซูชิและอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียม สาขาที่ 15 ที่ พาราไดซ์ พาร์ค ซึ่งจะมาช่วยรองรับกลุ่มลูกค้าใหม่ และกลุ่มลูกค้าที่เป็นสมาชิกของร้านอาหารที่อยู่ในย่านศรีนครินทร์ บางนา ที่มีกำลังซื้อสูงหลังจากที่เราได้รับกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากจากการเปิด HITORI SHABU พรีเมียมชาบูและสุกี้ยากี้สไตล์คันไซต้นตำรับจากประเทศญี่ปุ่น ที่พาราไดซ์ พาร์ค ไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ เล็งเห็นถึงโอกาสในการขยายร้านอาหารอื่นในเครือเพิ่มเติมที่ พาราไดซ์ พาร์ค ซึ่งเป็นทำเลทองในย่านศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง และชื่นชอบการรับประทานอาหารระดับพรีเมียม”
“โดย MAGURO สาขาใหม่นี้ สามารถรองรับกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการได้สูงสุดถึง 48 คน จึงมั่นใจได้ว่ามีพื้นที่เพียงพอต่อการให้บริการลูกค้าที่เข้ามารับประทานซูชิและอาหารญี่ปุ่นพรีเมียมของเราอย่างแน่นอน ภายในร้านจะมีบริการที่นั่งทั้งโซนเคาน์เตอร์บาร์ที่สามารถรับชมการรังสรรค์อาหารจากเชฟได้, โซนที่นั่งปกติสำหรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่ม และโซนที่นั่งติดกระจกที่สามารถเห็นวิวด้านนอกได้ ซึ่งบรรยากาศภายในร้านได้รับการออกแบบมาภายใต้ธีม Modern Luxury Fine Dining ทำให้ผู้ที่เข้ามารับประทานอาหารสามารถสัมผัสได้ถึงความเรียบหรูแต่ให้ความรู้สึกอบอุ่นตลอดการรับประทานอาหาร ตามคอนเซ็ปต์ ‘Give MoreCulture’ หรือ ‘การให้มากกว่าที่ขอ’ ที่เราอยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าเสมอ”
ปัจจุบันร้านอาหารในเครือของมากุโระ กรุ๊ป ดำเนินกิจการร้านอาหารรวมทั้งหมด 28 สาขา คือ MAGURO ร้านอาหารญี่ปุ่นและซูชิสไตล์ระดับพรีเมียม ที่มีการนำเข้าวัตถุดิบพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น 15 สาขา, SSAMTHING TOGETHER ร้านปิ้งย่างสไตล์เกาหลีวัตถุดิบพรีเมียม รสชาติถูกปากคนไทย 6 สาขา และ HITORI SHABU ร้านชาบูและสุกี้ยากี้หม้อเดี่ยวสไตล์คันไซ 7 สาขา โดยภายในปี 2567 บริษัทฯ มีแผนตั้งเป้าจะขยายสาขาร้านอาหารในเครือเพิ่มรวมถึงแผนการเปิดแบรนด์ใหม่รวมกันกว่าอีก 11 สาขา เพื่อรองรับความต้องการของฐานลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต