ไตรมาส 1
ปี 2567 ภาพรวมผลประกอบการ บจ. ดีขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
โดยเฉพาะธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว
บริษัทจดทะเบียน (บจ.) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส
1 ปี 2567 ภาพรวมรายได้และกำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากกว่างวดเดียวกันของปีก่อน
และธุรกิจการเงินได้รับผลบวกจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ
หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน
(บจ.) จำนวน 816 บริษัท คิดเป็น 98.31% จากทั้งหมด 830 บริษัท (รวม SET
และ mai ที่มีกำหนดส่งงบการเงิน ณ สิ้นงวด 31
มีนาคม 2567 และไม่รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน) นำส่งผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2567 พบว่ามี บจ. รายงานกำไรสุทธิ 646 บริษัท คิดเป็น 79.17% ของ บจ. ที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด
ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2567 เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
บจ. ใน SET มียอดขาย 4,398,203 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% ต้นทุนการผลิตปรับเพิ่มขึ้น 3.1% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มสูงขึ้น 6.8% ซึ่งส่งผลให้ บจ. มีกำไรจากการดำเนินงานหลัก (Core profit) 466,858
ล้านบาท และกำไรสุทธิ 264,805 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
14.2% และ 1.7% ตามลำดับ สำหรับฐานะการเงินของกิจการ
ณ 31 มีนาคม 2567 บจ.
ไทยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน หรือ D/E ratio (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน)
คงที่อยู่ที่ระดับ 1.52 เท่า
“ภาพรวมผลประกอบการดีขึ้นจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวส่งผลให้ธุรกิจการบริการและที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวมีกำไรดีขึ้น
เช่น ธุรกิจโรงแรม การบิน พื้นที่เช่า ค้าปลีก และโทรคมนาคม ทั้งนี้
อัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งให้ผลประกอบการของธุรกิจการเงินเติบโต
แต่อาจกดดันต้นทุนทางการเงินต่อธุรกิจอื่นๆ” นายแมนพงศ์กล่าว
ด้านผลการดำเนินงานของ
บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ไตรมาส 1 ปี 2567 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
มียอดขายรวม 54,030 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.2% ต้นทุนการผลิต และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เพิ่มขึ้น 6.7% และ 6.4% ตามลำดับ ส่งผลให้มีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่
5,259 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 4,607
ล้านบาท