บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ปลื้มผู้ลงทุนเชื่อมั่นผลการดำเนินงาน ให้ความสนใจลงทุนผ่านหุ้นกู้ TTA ซึ่งเปิดขาย 2 ชุด ในเวลาเดียวกัน รวมมูลค่าสูงสุด 3,500 ล้านบาท ท่ามกลางความผันผวนของตลาดตราสารหนี้ มั่นใจผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับ การลงทุนระยะยาว
นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย
เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผยว่า “จากการที่บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน ครั้งที่ 1/2567 ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและ/หรือผู้ลงทุนสถาบันจำนวน 2 ชุด มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท โดยเปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 30-31 มกราคม 2567 และ 1กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมานั้น หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการตอบรับดีเกินคาด TTA จึงต้องนำหุ้นกู้สำรองออกเสนอขายเพิ่มเติมอีก 1,000 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3,500 ล้านบาท
ความสำเร็จของ TTA ในการเสนอขายหุ้นครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในการดำเนินงานของบริษัทในมุมมองของผู้ลงทุน ท่ามกลางสภาวะตลาดตราสารหนี้ที่มีความ ผันผวน และขอขอบพระคุณผู้ลงทุนและทีมเสนอขายหุ้นทุกราย ที่มีความเชื่อมั่นใน TTA ตลอดมา สำหรับเงินที่ได้จากการะดมทุนในครั้งนี้ จะนำไปใช้ในการลงทุนในสินทรัพย์และ/หรือเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการของกลุ่มบริษัทฯเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนในอนาคตต่อไป”
ทั้งนี้ หุ้นกู้ของ TTA ชุดที่ 1 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569 อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.60ต่อปี และชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2570 อายุ 3 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 5.20 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “STABLE” โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด โดยเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมให้ TTA สามารถดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนตามแผนที่วางไว้ ณ ไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 TTA มีโครงสร้างเงินทุนแข็งแกร่งด้วยอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับต่ำที่ 0.34 เท่าและไม่มีประวัติผิดนัดชำระหนี้หรือเงื่อนไขของหุ้นกู้
###
เกี่ยวกับ TTA
บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เป็นบริษัทเพื่อการลงทุนในเชิงกลยุทธ์ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นโยบายการลงทุนของบริษัทฯ คือ การสร้างความเติบโตอย่างสมดุลให้กับพอร์ตการลงทุน ซึ่งมีการกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ พอร์ตการลงทุนในปัจจุบัน (แต่ไม่ได้จำกัดเพียงเท่านี้) ประกอบไปด้วย กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มการลงทุนอื่น สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์