บริษัท เจ เวนเจอร์ส ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีด้าน Digital Transformation และบล็อกเชนสัญชาติไทย ‘JFIN Chain’ ในกลุ่มเจ มาร์ทกรุ๊ป (Jaymart Group ตั้งเป้าส่ง JFIN Chain เดินหน้านำเทคโนโลยีบล็อกเชนขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้เติบโตด้วยเครื่องมือ ready-to-use ร่วมเผยทิศทางการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้สนับสนุนและขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้เติบโตในปี 2024
ภาพรวมธุรกิจ JFIN
ภาพรวมของธุรกิจของ บริษัท เจเวนเจอร์ส เราเป็นบริษัทที่อยู่ Under Umbrella ของ Jaymart Group บริษัทเราดูแลในสิ่งที่เรียกว่าเทคโนโลยี ให้กับในเครือของ Jaymart Group ซึ่งเทคโนโลยีที่เรามีหนึ่งตัวค่อนข้างเป็นจุดเด่นของเรา ก็คือเรื่องของ Blockchain เพราะเราเป็นผู้ออกเหรียญ JFIN แล้วเราก็มีเทคโนโลยี JFIN Chain ที่เป็น Blockchain อยู่เบื้องหลังในการที่จะสร้าง Business สามารถ Adoption ใช้ตัว BlockChain ได้ครับ
เหตุผลของการก่อตั้งบริษัทเจเวนเจอร์ส
ในมุม Jaymart เขาก็มีธุรกิจที่ชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนตัวบริษัทเราเองเปิดบริษัทเจเวนเจอร์สขึ้นมา เพราะว่าเรามีการระดมทุนเหรียญ ICO JFIN เราจึงเปิดบริษัทเจเวนเจอร์สขึ้นมา โดยจุดประสงค์ที่ว่าเราได้เงินระดมทุนมาแล้ว เรามาลงทุนต่อและพัฒนา BlockChain เพื่อที่จะมาเป็น Infrastructure ให้กับบริษัทแล้วกลับมาประเทศของเรา เพื่อให้เกิดการ Adoption BlockChain มากขึ้นไปเรื่อย ๆ
กลุ่มลูกค้าของ JFIN
กลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่ม B2B ด้วยความที่เจเวนเจอร์สของเราเป็น Digital Transformation Consultant โดยที่เรามีความเชี่ยวชาญในมุมของ Block Chain Technology นะครับ เพราะฉะนั้นกลุ่มลูกค้าของเราจะเป็นฝั่งของ B2B มาก อย่างเช่นเราบอกว่า เราเดินไปหา Business Partner ของเรา แล้วเราบอกว่าคุณสามารถนำ BlockChain มาปรับใช้ ในธุรกิจคุณให้ก้าวผ่านตัว Digital Transformation ที่จะเข้ามาถึงในอนาคตได้อะไรแบบนี้ครับ
สัดส่วนรายได้ของ JFIN
สัดส่วนรายได้ของเราส่วนใหญ่จะเป็นงาน Consult Service , Service Fee Consult แทบจะทั้งหมด แบ่งสักประมาณ 70% และ 30% นะครับ อีกประมาณ 30% น่าจะเป็นเรื่องของซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มที่เราทำ ซึ่งเราคาดหวังว่ามันจะโตควบคู่กันไปแต่ว่าโดยทั่วไปแล้วด้วยความที่เราเป็น Disruptor ให้กับในประเทศ เราเอา BlockChain มาใช้ เราคงเน้นไปในเรื่องของ Consulting Service เยอะขึ้น
การตั้งเป้ารายได้ของ JFIN
เป้าหมายเราต้องแจ้งก่อนว่า 2022 เราปิดกำไรอยู่ที่ 18 ล้านบาทนะครับ ส่วน 2023 ยังไม่ได้ปิดสมบูรณ์เพราะเป็นช่วงต้นปี เราคาดว่าเราน่าจะไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท น่าจะหย่อน ๆ ลงมาจาก 30 ล้านบาทนะครับ และปี 2024 ทาง JFIN เราก็มีแผนเติบโต 38-60 ล้านบาท ตามแผนที่ตั้งไว้ครับ
#JFIN #JayMart #StockReview #BusinessLineandLife #บทสัมภาษณ์พิเศษ