เอ็มเอฟซีออกกองทุนใหม่อายุ 6 เดือน แนะลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนเงินฝาก เสนอขายวันนี้ - 29 เม.ย.63
เอ็มเอฟซีมั่นใจกองทุนตราสารหนี้น่าลงทุนหลังจากที่กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานก.ล.ต. ได้ออกมาตรการที่ช่วยสร้างเสถียรภาพตลาดตราสารหนี้ให้ดียิ่งขึ้น โดยมีมาตรการเพิ่มเติมผ่อนผันกองทุนตราสารหนี้ เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่กองทุนรวม สืบเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนตราสารหนี้มีแนวโน้มและสภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากจึงเป็นโอกาสที่ดีแก่นักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุน และต้องการลงทุนในหุ้นกู้เอกชนคุณภาพที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าเงินฝากในประเทศ
นายสดาวุธ เตชะอุบล ประธานคณะกรรมการบริหาร และรักษาการกรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เหมาะสมที่จะลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ส่งผลให้ธนาคารกลางหลักทั่วโลกและไทยปรับลดดอกเบี้ยฉุกเฉินตามธนาคารกลางสหรัฐฯรวมทั้งออกมาตรการซื้อตราสารหนี้เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาด ส่งผลให้เงินฝากในประเทศไทยและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวลงอยู่ในระดับต่ำ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นโอกาสลงทุนในตราสารหนี้เอกชนคุณภาพสูงและให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าพันธบัตรรัฐบาล นอกจากนี้ การลงทุนในเงินฝากธนาคารต่างประเทศที่มีสถานะการเงินแข็งแกร่งและมีอันดับความน่าเชื่ออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) อาทิเช่น ธนาคารในประเทศจีนและประเทศกาตาร์ ให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าเงินฝากในประเทศ
เอ็มเอฟซีเปิดขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี กาญจนทรัพย์ 6 ซีรี่ส์ 6 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (MKAI6S6)เสนอขายวันนี้29 เมษายน 2563 โดยเป็นกองทุนตราสารหนี้ภาครัฐ ภาคเอกชน เงินฝาก ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ อายุโครงการประมาณ 6 เดือน มูลค่าขั้นต่ำของการลงทุน 500,000 บาท ประมาณการผลตอบแทนในอัตราเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 1.30 ต่อปีของมูลค่าหน่วยลงทุนที่ตราไว้ (10 บาท) เมื่อครบอายุกองทุน บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมด และสับเปลี่ยนไปยังกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี พันธบัตรตลาดเงินหรือกองทุนเปิด MM-GOV
กองทุนเปิด MKAI6S6 เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ และ/หรือเอกชน เงินฝาก ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศได้แก่ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ตราสารหนี้ที่ออกโดยนิติบุคคลที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ เงินฝาก และตราสารหนี้เอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment grade) เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินแบบเต็มจำนวน (Fully hedge) ทั้งนี้ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงเวลา 6 เดือนได้ และกองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออก ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนเป็นจำนวนมาก
ตราสารที่คาดว่าจะลงทุนดังนี้(1) เงินฝากประจำ : Agriculture bank of china rating Moody’s : A1 สัดส่วนการลงทุน6.00% ผลตอบแทนตราสาร 1.08% ต่อปี ผลตอบแทนที่กองทุนคาดว่าจะได้รับ 0.06% ต่อปี(2) เงินฝากประจำ : Bank of China rating Moody’s : A1 สัดส่วนการลงทุน 18.00% ผลตอบแทนตราสาร 1.43% ต่อปี ผลตอบแทนที่กองทุนคาดว่าจะได้รับ 0.26% ต่อปี(3) เงินฝากประจำ: Alkhaliji rating Moody’s : A2 สัดส่วนการลงทุน 19.00% ผลตอบแทนตราสาร 1.18% ต่อปี ผลตอบแทนที่กองทุนคาดว่าจะได้รับ 0.22% ต่อปี (4) เงินฝากประจำ: Doha Bank rating Moody’s : Baa1สัดส่วนการลงทุน 19.00% ผลตอบแทนตราสาร 1.73% ต่อปี ผลตอบแทนที่กองทุนคาดว่าจะได้รับ0.33% ต่อปี (5)ตั๋วแลกเงิน : บริษัทแผ่นดินทองพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)rating TRIS : A-สัดส่วนการลงทุน 19.00% ผลตอบแทนตราสาร 1.88% ต่อปี ผลตอบแทนที่กองทุนคาดว่าจะได้รับ 0.36% ต่อปี (6) ตั๋วแลกเงิน: บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) rating TRIS : BBB+ สัดส่วนการลงทุน 19.00% ผลตอบแทนตราสาร1.93 % ต่อปี ผลตอบแทนที่กองทุนคาดว่าจะได้รับ 0.37% ต่อปี ทั้งนี้กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารอื่นแทนหรือเพิ่มเติม
ประมาณการผลตอบแทนรวมที่ได้รับจากการลงทุน 1.60% ต่อปี ประมาณการค่าใช้จ่าย 0.30% ต่อปี และประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่าย 1.30% ต่อปี หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้เนื่องจากสภาวะตลาดบริษัทจัดการอาจไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนตามอัตราดังกล่าว
กองทุนเปิด MKAI6S6 เหมาะสำหรับผู้ที่คาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก ยอมรับผลตอบแทนที่อาจต่ำกว่าหุ้นได้และสามารถลงทุนได้นานกว่า 6 เดือน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน สำหรับผู้สนใจสามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 500,000 บาท โดยติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง ผลการดำเนินงานของกองทุนหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2649-2000 ติดต่อฝ่ายวางแผนการลงทุน กด 2 หรือ Contact Center กด 0 สาขาแจ้งวัฒนะ โทร.0-2835-3055-57 สาขาปิ่นเกล้า โทร. 0-2014-3150-2 สาขาขอนแก่น โทร.043-204-014-16 สาขาเชียงใหม่ โทร. 0-5321-8480-82 สาขาระยอง โทร. 033-100-340 สาขาหาดใหญ่ โทร. 074-232-324 - 25 หรือที่www.mfcfund.com