"JFIN Chain" เดินหน้านำเทคโนโลยีบล็อกเซน ขับเคลื่อนธุรกิจไทยด้วยเครื่องมือ ready-to-useให้เติบโตได้จริง

ตั้งแต่ JFIN Chain ได้เริ่มพัฒนาในปี 2022 ในรูปแบบ Proof-of-Stake Authority (POSA) โดยมีองค์กรเข้ามาร่วมเป็น Validator Nodes จำนวน 11 Nodes ด้วยกัน สำหรับปี 2023 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่เรียกว่า 'The Year of Collaboration' เนื่องจาก JFIN Chain ได้มีการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ทั้งการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ และการต่อยอด พัฒนาของที่มีให้เกิดการใช้งานจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเอาเทคโนโลยี NFT (Non-Fungible Tokens)เข้ามาเป็นเครื่องมือทรานสฟอร์มให้ธุรกิจก้าวสู่โลกบล็อกเซนและ Web3 ซึ่งนำมาใช้จริงแล้วกับธุรกิจ (Real use case)เช่น การใช้ NFT เพื่อสร้าง Customer Engagement กับร้านสุกี้ตีน้อย และร้านกาแฟ Casa Lapin หรือ การนำ NFT มาเป็นรางวัลพรีเมียมพร้อมกับสิทธิพิเศษให้กับผู้ร่วมงานคอนเสิร์ต Overcoat ครั้งที่ 13 ทั้งนี้ JFIN Chain ยังได้ขยายอีโคซิสเต็มให้พร้อมเชื่อมต่อสู่ต่างประเทศ โดยการพาร์ทเนอร์กับต่างประเทศ อาทิ Coinstore.com ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ รองรับผู้ใช้งานกว่า 3.5 ล้านคน ใน 175 ประเทศทั่วโลก และ Liquid Crypto ผู้ให้บริการ Decentralized Finance ชั้นนำจากออสเตรเลียในส่วนของเหรียญโทเค็น (Token) JFIN Chain มีผู้พัฒนาโปรเจกต์และมีเหรียญมาร่วมกันอยู่บนเชนมากมายตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น XWEL ที่เป็นเหรียญสำหรับองค์กรในรูปแบบ work to earn, WIRTUAL เหรียญจากแอปพลิเคชันออกกำลังกายชื่อดัง และ KGO เหรียญ City Token จากจังหวัดขอนแก่น ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคให้ขยายขึ้นต่อไปอีก


ธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด เผยว่า กลยุทธ์และทิศทางของ JFIN Chain ปี 2024 จากที่เราพัฒนาเทคโนโลยี และสร้างแพลตฟอร์มต่างๆ ในปีที่ผ่านมา และ JFIN Chain ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เรามีความพร้อมที่จะเป็น Infrastructure Blockchain ให้กับองค์กรธุรกิจ ด้วยเครื่องมือพร้อมใช้ (Ready-to-use) ที่เรามีจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนให้ธุรกิจทรานสฟอร์มสู่โลก Web3 (Empower Your Journey, Thrive The Business) ผ่านการเชื่อมบุคคลเข้ากับเทคโนโลยีที่เราออกแบบจากพฤติกรรม พื้นฐานของผู้ใช้งานปัจจุบัน ซึ่งไม่เน้นเฉพาะ B2B (Business to Business) เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึง B2B2C (Business to Business To Customer)ที่ปัจจุบัน C ไม่ใช่เพียงแค่ Customer อีกต่อไป แต่ยังรวมถึง Community ที่เป็นกลุ่มชุมชนของผู้ที่มีความชื่นชอบในเรื่องเดียวกัน อาทิ กลุ่มนักพัฒนา กลุ่มชุมชน Web3 กลุ่มครีเอเตอร์กลุ่มนักสะสม NFT ฯลฯ จะเห็นได้ว่า นอกจากเครื่องมือทางธุรกิจแล้ว JFIN Chain ยังพร้อมที่จะรองรับ Gamification ที่ เข้ามาร่วมบนเชน โดยในต้นปีนี้ เตรียมพบกับเกมส์ BitmonsterNFT และ BEASTICA อีกทั้งเรายังให้น้ำหนักกับการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชน (Community Building) ทั้งกลุ่มนักพัฒนา กลุ่ม Web3 ผู้ใช้งาน รวมถึงผู้ถือ JFIN ซึ่งเรามองว่าทุกกลุ่มนั้นต่างเป็นกลไกที่จะช่วยขับเคลื่อนให้บล็อกเซนขยายและเติบโตขึ้นไปอีก


ธนวินท์ รัฐเมธา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด เผยว่า "เครื่องมือธุรกิจจาก JFIN Chain ช่วยให้องค์กรและธุรกิจเชื่อมต่อสู่โลก Web3 ได้จริง โดยเราออกแบบมาจากการศึกษา Pain point หลักของธุรกิจ 4 เรื่อง ได้แก่

1. ลดค่าใช้จ่ายต้นทุน (Reduce cost) เช่น ค่าพัฒนาแอปพลิเคชัน ค่าบำรุงรักษา ค่าตัวคนไอที ฯลฯ

2. เครื่องมือมีคุณภาพ (Quality) สร้างเครื่องมือพร้อมใช้งานที่มีคุณภาพ และใช้งานได้จริงในธุรกิจหรืออุตสาหกรรมต่างๆ

3. ความรวดเร็วในการทำงาน (Fast) เนื่องจากหลายองค์กรไม่มีเวลามากพอที่จะพัฒนาระบบใหม่ๆ ดังนั้นเครื่องมือที่พร้อมใช้จึงเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้

4. การผ่านมาตรฐานและมีการตรวจสอบอย่างถูกต้อง (Compliance Audit) การพัฒนาบล็อกเซนของ JFIN Chain ได้รับการตรวจสอบทางบัญชีอย่างถูกต้อง และได้รับมาตรฐานความปลอดภัยทางระบบ IS027001

ภายในงานฯ ได้มีการนำเสนอโชว์เคสที่หลากหลายจากเหล่าพาร์ทเนอร์ JFIN Chain พร้อมแสดงวิสัยทัศน์การนำเอาบล็อกเชนมาต่อยอดทางธุรกิจได้จริง โดยมีตัวแทนจากพันธมิตรฯ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้พัฒนา Token และแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สุภชีพ พรวัฒนากูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ Co-founder จาก WIRTUAL ประกาศิต ทิตาราม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Wellios จำกัด และพิยดา จรูญกุล Marketing Communication บริษัท อินฟินิทแลนด์ โทเคน จำกัด ร่วมพูดคุยในหัวข้อ "Expanding the Ecosystem : Showcasing partnerships and collaborations with business" อีกด้วย

เพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจและองค์กรให้พุ่งทะยานต่อเนื่อง JFIN Chain ยังได้ต่อยอดสร้างสรรค์ Join Solution ให้เป็นโซลูชันตัวช่วยสำคัญในการนำเอาเครื่องมือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Web3, NFT และ Token เข้ามาทำงานร่วมกันในแบบ Integration เพื่อให้เป็น Enterprise Engagement Platform เชื่อมต่อธุรกิจและลูกค้าเข้าสู่โลก Web3 ได้อย่าง seamless โดยองค์กรสามารถเลือกสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ สู่กลุ่มเป้าหมายได้ ทั้งการใช้ Customer Loyatty สู่ลูกค้าและคอมมูนิตี้, Employee Engagement กับพนักงานในองค์กร, Events & Concerts ตัวช่วยในการการจัดงานอีเว้นท์ และ Education Ecosystem ที่จะช่วยให้เกิดการเรียนรู้ และสร้างความบันเทิงไปพร้อมกัน

โดย Join Solution ออกแบบมาเพื่อช่วยลดต้นทุนค่าพัฒนาด้านไอที ประหยัดเวลาเนื่องจากเป็นเครื่องมือพร้อมใช้ สามารถเชื่อมต่อใช้งานร่วมกับระบบหรือแอปพลิเคชันที่มีอยู่แล้วได้ทันที รวมถึง interface ของ Join Application หรือ Line OA และยังสามารถเลือก Customize ตาม CI ของบริษัทหรือแบรนด์นั้น ๆ รวมถึงเลือกใช้งานเฉพาะฟีเจอร์ที่ต้องการ

.

#JFINChain #JFIN #NFT #StockReview #StockReviewOfficialTH #BusinessLineAndLife