บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET วันนี้ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,400 – 1,407 แนวต้าน 1,420 – 1,425 รอรายงานกำไร Q4/66 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก CPALL , CPAXT , BJC / กลุ่มปลอดภัย ADVANC , INTUCH , BDMS , ICHI
ขณะที่สัปดาห์ที่ผ่านมา DJIA +0.34%, S&P500 +1.84%, Nasdaq +3.09% WoW หลังรายงาน US PPI ธ.ค. ลดลงอยู่ที่ 1.0% & พ.ย. 0.8% & คาด 1.3% YoY แม้ว่า US CPI ธ.ค. จะปรับขึ้นอยู่ที่ 3.4% & พ.ย. 3.1% YoY ซึ่งสัดส่วนใหญ่มาจากค่าเช่าที่อยู่อาศัย +6.2% YoY อย่างไรก็ตามค่าเช่าปีนี้มีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้ CME Fed Watch ชี้มีโอกาส 76.9% เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 20 มี.ค. ขณะที่กลุ่มธนาคาร -1.26% หลัง BofA, JP.Morgan รายงานกำไร Q4/66 ต่ำกว่าคาด และ Citi Group มีผลขาดทุนใน Q4/66 จากการกันสำรองที่เพิ่มขึ้น
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัว WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มอุตสาหกรรม & บริการ +1.7%, สื่อสาร +1.7% หลังรายงาน GDP UK พ.ย. 0.3% & ต.ค. 0.2% MoM และ CPI สเปน ธ.ค. ชะลอตัวอยู่ที่ 3.1% & พ.ย. 3.2% YoY นักลงทุนรอผลการประชุม ECB วันที่ 25 ม.ค. ว่าจะมีโอกาสเริ่มลดดอกเบี้ยใน มี.ค. นี้หรือไม่ ฝั่งเอเชีย MSCI Asia Pacific Index +0.95% WoW ได้แรงหนุนจากดัชนีนิเกอิปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 34 ปี หลังคาด BOJ จะยังใช้ มาตรการผ่อนคลายการเงินต่อไป เนื่องจากเงินเฟ้อญี่ปุ่นยังชะลอตัวและอัตราค่าจ้างแรงยังไม่เพิ่มขึ้น ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -1.6% WoW หลัง CPI, PPI จีน ธ.ค. ยังชะลอตัว บ่งชี้เศรษฐกิจยังฟื้นตัวช้า ซึ่งตลาดคาด ธนาคารกลางจีนมีโอกาสอัตรา RRR ลง 50 Bps และลด MLF 1 ปี ลง 10 Bps เพื่อเสริมสภาพคล่อง สัปดาห์นี้ติดตาม ยอดค้าปลีก, การผลิตภาคอุตฯ, ยอดเริ่มสร้างบ้าน, ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐ ธ.ค. / CPI ญี่ปุ่น, ยูโรโซน, อังกฤษ ธ.ค. / GDP จีน Q4/66 คาด +5.2% & Q3/66 +4.9% YoY
ขณะที่ผลการเลือกตั้ง ปธน.ไต้หวัน ไล่ ชิง เต๋อ จากพรรค DPP ชนะเลือกตั้ง ซึ่งคาดนโยบายเป็นการเจรจาลดความขัดแย้งกับจีน สำหรับดัชนี SET -1.01% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 4.12 หมื่น ลบ. -12.0% WoW ต่างชาติขาย 4.2 พัน ลบ. สถาบันขาย 1.4 พัน ลบ. รายย่อยซื้อ 4.5 พัน ลบ. โดยกลุ่มปรับลดลง คือ ท่องเที่ยว -3.5%, วัสดุก่อสร้าง -3.3%, ปิโตร ฯ -2.9% ซึ่งเป็นกลุ่ม Global Play ที่พึ่งพาอุปสงค์ตลาดโลกยังฟื้นตัวช้า และกลุ่มธนาคาร -2.1% หลังโบรกเกอร์ต่างชาติได้ปรับลดราคาเป้าหมาย ธ.ใหญ่หลายแห่ง ดังนั้นนักลงทุนจึนเลือกพักเงินในกลุ่มปลอดภัย เช่น รพ. +1.6% ภาพรวมดัชนีถูกกดันจากความกังวล บจ.บางแห่งเริ่มมีปัญหาสภาพคล่องในการ Roll Over หุ้นกู้เอกชนที่ปีนี้จะครบกำหนด 1.1 ล.ลบ. และแนวคิดต่างกันในการบริหารดอกเบี้ยของรัฐบาล & ธปท. สัปดาห์นี้ติดตามรายงานกำไร Q4/66 กลุ่มธนาคาร ซึ่ง BB.Consensus คาด -6% QoQ, +36% YoY
นอกจากนี้ Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตัวรับความหวังเศรษฐกิจจีนเริ่มดีขึ้น ลุ้น Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT, HMPRO, ILM, CPN, CRC, MC, KAMART, CBG, ICHI, RBF
2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัวจากฐานต่ำปี66 AAI, ITC, TU, COCOCO, SAPPE, DELTA, KCE, EPG, NYT, SJWD
3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT, CENTEL, ERW, SPA, SISB, WPH
4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC, TIDLOR
5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ เริ่มลดลง BGRIM, GPSC
6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA, SUSCO
#สรุปภาวะการลงทุน #SET #StockReview #BusinessLineandLife #ข่าวการลงทุน #ข่าวหุ้น #สรุปสภาวะตลาด #คิงส์ฟอร์ด #Kingsford #KingsfordSec