GFC ผู้นำการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยากครบวงจร กับการเติบโตอย่างโดดเด่น

ธุรกิจของ GFC

    ธุรกิจของเราก็จะเป็นคลินิกสำหรับผู้มีบุตรยาก บริการหลักๆของเราแบ่งเป็น 5 ส่วนด้วยกัน คือ 1.วิธีให้คำปรึกษาเบื้องต้น เพื่อที่จะวางแผนในการให้การรักษาภาวะผู้มีบุตรยาก 2. วิธีการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธี IUI หรือการฉีดเชื้อ 3. วิธีการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว 4. วิธีการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธีการตรวจพันธุกรรมตัวอ่อนหรือตรวจโครโมโซม 5. วิธีสุดท้ายเป็นการบริการด้วยแพทย์แผนไทย 

GFC ของเราจะมีบริษัทย่อยอยู่ 2 บริษัท คือ บริษัท จีโนโซมิกส์ เป็นบริษัทที่เอาไว้ตรวจโครโมโซม และอีกบริษัทนึงคือ บริษัท จีเอฟซี เฟอร์ทิลีตี กรุ๊ป อันนี้เราเปิดไว้ก่อนครับ เผื่อว่าอนาคตเกิดมีโปรเจกต์ หรืออาจจะมีการทำโปรดักส์เพิ่มเติม อย่างเช่นอาหารเสริมก็สามารถลงมาที่บริษัทนี้ได้ครับ


สัดส่วนรายได้ของ GFC 

    สัดส่วนของเรามาจาก 5 บริการทั้งหมดอย่างที่ผมได้เรียนไป สัดส่วนรายได้ 70% ของเราจะอยู่ที่การบริการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว หรือ ICSI ส่วนอีกประมาณ 20% ที่เหลือก็จะเป็นการรักษาแบบตรวจโครโมโซม พันธุกรรมตัวอ่อน ประมาณอีก 10% อันนี้ก็จะเป็นบริการที่เหลือทั้ง 3 ส่วน ก็คือการให้คำปรึกษาและก็การฝากแช่แข็งไข่ และสุดท้าย IUI อันนี้จะเป็นใน 10% ที่เหลือครับ


กลุ่มลูกค้าหลักของทาง GFC 

ลูกค้าของคลินิกรักษาการมีบุตรยากก็จะเป็นกลุ่มที่มีปัญหาทางการมีบุตรยาก ถ้าพูดถึงในช่วงราคาเราก็จะมองว่ากลุ่มลูกค้าก็จะเป็นกลุ่ม B+ เป็นกลุ่มที่ประสบปัญหามีบุตรยากที่มีรายได้อยู่ในกลุ่ม B+ ช่วงอายุที่มารักษาก็จะมีหลากหลายช่วงวัย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงอายุ 30-40 ตรงนี้คืออายุเฉลี่ยโดยทั่วไป


โอกาสทางธุรกิจของ GFC

    ต้องบอกว่าธุรกิจการมีบุตรยากยังไปได้อีกไกล  เพราะว่าปัญหาการมีบุตรยากในปัจจุบันไม่ใช่แค่ในประเทศไทยอย่างเดียว แต่ทุกประเทศประสบปัญหานี้เช่นกัน  อย่างประเทศไทยของเราเองจริง ๆ  ปีนี้เราตั้งเป้าว่าจะต้องมีเด็กเกิดใหม่ประมาณ 7 แสนคน แต่สุดท้ายไม่ถึงเป้ามีเด็กเกิดใหม่จริง ๆ อยู่ที่ 5 แสนคน เพราะฉะนั้นแนวโน้มในการส่งผลต่อภาครัฐต่าง ๆ แม้กระทั่งต่างประเทศเองก็เริ่มมีการส่งเสริมให้ประชากรอยากจะมีบุตรเพิ่มมากขึ้น  ถ้าดูการเติบโตของธุรกิจมีบุตรยากประเทศไทยผ่านตัวเลขการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 7% ของตัว IVS ตลาดโลกที่เติบโตอยู่ประมาณ 3% 

ส่วน GFC ของเราที่ผ่านมา 3 ปีย้อนหลัง การเติบโตของธุรกิจงเราอยู่ที่ประมาณ 13% มีปีนี้ที่เรามีตัวเลขที่เติบโตมาสูงตั้งแต่ต้นปียันปัจจุบัน เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20-30% และเรามองว่าธุรกิจการมีบุตรยากยังเติบโตได้อีกเยอะ เพราะเนื่องจากความเครียดของทุกคน จากการทำงานในปัจจุบันทำให้คนไข้ที่มารักษากับทางคลินิกเรา การตรวจเบื้องต้นมีสถิติในช่วงอายุ 35 ปี โดยเฉลี่ยเริ่มมีปัญหามีบุตรยากจึงจำเป็นจะต้องรักษาเพราะฉะนั้นแนวโน้มในอนาคตที่ว่าการที่จะมีบุตรน่าจะต้องเข้ามาปรึกษาคลินิกเฉพาะทาง การรักษาขึ้นอยู่กับภาวะของแต่ละท่านบางท่านอาจจะรักษาและขอวันที่ไข่ตก หรือบางท่านอาจจะรักษาโดยวิธีการฉีดเชื้อขึ้นอยู่กับภาวะของแต่ละท่าน แต่แนวโน้มการจะมีลูกในอนาคตจะต้องมาปรึกษาคลินิกเฉพาะทางก่อนเพิ่มมากขึ้นครับ


สัดส่วนลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติ

    สัดส่วนของลูกค้าจะเป็นคนไทยส่วนใหญ่ประมาณ 90%  ของ ณ ปัจจุบันนี้ครับ ทีนี้จากที่เราเข้าตลาดไปตัวคลินิกที่เราจะเปิดสาขาเซ็นทรัล พระราม 9 ตรงนี้เราจะรับลูกค้าต่างชาติเข้ามาเพิ่มขึ้น เนื่องจาก GFC พื้นที่ใช้สอยของเราค่อนข้างที่จะเต็มพื้นที่ต่าง ๆ ที่เอาไว้ให้การรักษา เราจะให้คนไทยเป็นส่วนใหญ่ก่อน แต่อนาคตเรามีการขยายพื้นที่รักษาให้ชาวต่างชาติแน่นอนครับ


แผนธุรกิจใน 3-5 ปีข้างหน้า

    GFC เราวางแผนไว้ว่า เราจะยังเปิดสาขาอย่างต่อเนื่อง อย่างที่ผมได้กล่าวไปเราทำสถิติสูงสุดใหม่มาตลอด พอเข้าตลาดต้นปีเราตั้งเป้าไว้ยื่นไฟลิ่ง อยู่ที่ประมาณ 307 ล้านบาน แล้วเราก็การปรับเป้ามาตลอดทั้งปี จนสุดท้ายอยู่ที่ประมาณ 330 ล้านบาท ปีนี้เราคิดว่าเราน่าจะเกินเป้านี้ พอมองถึงปีหน้าเราเข้าตลาดไปแล้วเรามีสาขาเพิ่มอีก 2 สาขา ทั้งนี้คาดว่าปี 2024 ตัวเลขเราน่าจะโตขึ้นอย่างน้อย 40-50% ตั้งเป้าอยู่ที่ประมาณ 480 ล้านบาท และปีต่อๆไปเราก็จะบวกอีกประมาณ 35-45% และในปี 2025-2026 เราบวกเพิ่มอีก 20% เพราะฉะนั้นในช่วง 3 ปีนี้ เรายังจะโฟกัสในการเปิดตัวของสองสาขาที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ครับ


#GFC #StockReview #BusinessLineandLife #บทสัมภาษณ์พิเศษ #คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก