กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ SPI-BTSG พร้อมขับเคลื่อน TNL ปั้น 3 ธุรกิจใหม่ ด้านการเงิน -AMC คาดโต 2 เท่า หลังแตกไลน์ธุรกิจ
นายนันทวัฒน์ สุรวัติเสถียร หัวหน้าคณะผู้บริหาร สายงานการเงิน บมจ.ธนูลักษณ์ หรือ TNL เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจ ปี 2565 และได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นเพิ่มทุน โดยงวด 9 เดือนแรก 2566 TNL มีรายได้รวม 2,186 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิจำนวน 501 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 422 ล้านบาท หรือ 534% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิที่ 32% เมื่อเทียบกับ 7% ใน 9 เดือนแรกของปี 2565
โดยหลักๆ รายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากธุรกิจใหม่ในด้านธุรกิจบริการทางเงิน (Oxygen และ OAM) และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (TNLA) ที่มีอัตรากำไร (Net Profit Margin) ที่สูง คาดว่าปี 67 โตจากเป้าปี 66 ที่วางไว้ จำนวน 2,500 ล้านบาท จะมาจากธุรกิจใหม่โดยเฉพาะสินเชื่อแบบมีหลักประกัน ตั้งเป้าโตไม่ต่ำกว่า 15% จากยอดสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท และธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ตั้งเป้าโตเป็น 2 เท่าจากปี 66 ซึ่งปัจจุบันมีพอร์ตหนี้เสีย 1,600 ล้านบาท
ขณะที่ธุรกิจการลงทุนในบริษัทร่วมทุนเพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายร่วมลงทุนกับบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (“NOBLE”) ผ่านบริษัทร่วมทุน (JV) ในสัดส่วน 50:50 ปัจจุบัน มีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอยู่ 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยจะเริ่มทยอยก่อสร้างเสร็จ และพร้อมโอนตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป
นายกิตติชัย ตรีรัชตพงษ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารสายงานกลยุทธ์องค์กร กล่าวเพิ่มเติม สำหรับธุรกิจหลักผลิตและจำหน่ายสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปและเครื่องหนัง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดจะโตเท่ากับปี 66 ที่ 2,000 ล้านบาท ยังคงเป็นรายได้หลักในสัดส่วน 70% หากรายได้ในหมวด ธุรกิจการเงินใหม่มีโอกาสและมาร์จิ้นสูงและมีสัดส่วนมากขึ้นในอนาคต บริษัทก็พร้อมที่จะเปลี่ยนหมวดธุรกิจเป็นกลุ่มFinance
ปัจจุบัน TNL มีส่วนของผู้ถือหุ้น ณ 30 ก.ย. 2566 อยู่ที่ 10,553 ล้านบาท และมีหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวมอยู่เพียง 0.21 เท่า
#TNL# ข่าวหุ้น #Stockreview#BusinessLine&Life