ก.ล.ต. - SET - FETCO ร่วมมือยกระดับตลาดทุนไทย เน้นสร้างความเชื่อมั่นและขับเคลื่อนความยั่งยืนของประเทศ ตามยุทธศาสตร์ 3 ปีข้างหน้า
นายพิชิต อัคราทิตย์ ประธานกรรมการ ก.ล.ต. กล่าวถึงการจัดงานสัมมนาแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ปี 2567 ว่าประเด็นที่แผนยุทธศาสตร์ในอีก 3 ปีข้างหน้าฉบับนี้ มุ่งเน้นและให้ความสำคัญมาก คือ การเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นของตลาดทุนไทย ผ่านการยกระดับบทบาทและการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ร่วมตลาดทุนรวมกับการยกระดับศักยภาพของ ก.ล.ต. ในการกำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมายเพื่อคุ้มครองผู้ลงทุน ควบคู่ไปกับบทบาทการพัฒนาตลาดทุนในด้านต่าง ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการเข้าถึงตลาดทุนในวงกว้าง เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากตลาดทุนได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีและยั่งยืน โดยในการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ ส่วนที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งและขาดไม่ได้คือความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่จะเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ตลาดทุนไทยสามารถพัฒนาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และตอบโจทย์ของประเทศได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพต่อไป
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวถึง “ทิศทางการกำกับและการพัฒนาตลาดทุนไทยเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความยั่งยืนของประเทศ” ว่าภายใต้บริบทปัจจุบันและในระยะ 3 – 5 ปี ข้างหน้า ก.ล.ต. ตั้งเป้าหมายแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ปี 2567 – 2569 มุ่งบรรลุเป้าหมายหลัก 4 ด้าน ดังนี้
(1) ยกระดับตลาดทุนมีความน่าเชื่อถือ (trust and confidence) โดยเชื่อว่าการนำกลยุทธ์ ป้อง-ปราม-ปราบ มาใช้กำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมายให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมมากขึ้น นอกจากนี้การตรวจจับความผิดปกติได้ทันการณ์และนำผู้กระทำผิดมาลงโทษได้รวดเร็วด้วยโทษที่เหมาะสม
(2) ตลาดทุนเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
(3) ตลาดทุนเป็นกลไกสำคัญสู่ความยั่งยืน (sustainable capital market)
(4) ผู้ลงทุนมีศักยภาพในการสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดี หรือ เศรษฐกิจที่ลดความเหลื่อมล้ำจากการมีความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้กำหนดให้มีแผนองค์กรนวัตกรรมซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ (enabler) ที่จะช่วยส่งเสริมการขับเคลื่อนและผลักดันภารกิจให้เกิดผลสัมฤทธิ์และบรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้
ดร. กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เห็นด้วยกับการที่ทาง ก.ล.ต. ขับเคลื่อนและให้ความสำคัญต่อการสร้างความเชื่อใจต่อองค์กรเป็นสำคัญ โดยทาง FETCO จะสามารถสนับสนุน ก.ล.ต. ในด้านหารือองค์กรที่เกี่ยวข้องด้านข้อบังคับทางกฎหมายอย่างเต็มที่เพื่อยกระดับตลาดทุนมีความน่าเชื่อถือนั่นเอง
นอกจากนี้ ดร. ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองที่สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างผู้ที่มีบทบาทหลักในการพัฒนาตลาดทุนไทยเพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนประเทศ ว่าทางตลาดหลักทรัพย์ฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญ ทั้ง 3 จุดมุ่งหมายหลัก โดยอย่างแรกคือ ต้องการผลักดันเกิดการเข้าถึงและเพิ่มทางเลือกในการระดมทุนให้มีตัวเลือกมากขึ้น อย่างการเปิดโอกาสให้กลุ่มบริษัทขนาดเล็กอย่าง Startups และ SMEs สามารถเข้าถึงตลาดทุนได้ง่ายมากขึ้น รวมไปถึงการผลักดันให้ตลาดทุนไทยสามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาระดมทุนในตลาดทุนไทย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความหลากหลายในการลงทุน อย่างเช่น การลงทุนใน Investment token และ digital token ในขณะเดียวกันก็ต้องการผลักดันให้นักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในตลาดทุนไทยมีส่วนร่วมในการลงทุนเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
อย่างที่สอง คือ การสร้างโครงสร้างในตลาดทุน ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าว่าทาง ตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้นได้เข้ามามีส่วนในการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆต่อตลาดทุนมาโดยตลอด
อย่างสุดท้ายคือ ความยั่งยืน โดยทาง ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องการผลักดัน “ตลาดคาร์บอนเครดิต” เนื่องจากถือเป็นสิ่งที่ท้าทายระดับสากลในอนาคตต่อธุรกิจกลุ่มส่งออกต่างๆ และอาจรวมไปถึงธุรกิจอื่นๆต่อไปอีกด้วย
#กลต #SEC #SET #FETCO
#StockReview #BusinessLineandLife #หุ้น #เทรดหุ้น