บริษัทหลักทรัพย์เอเชียพลัสวิเคราะห์การปรับลดลงของ SET INDEX 13.73 จุดวานนี้ หากลงไปดูรายละเอียดพบว่า เกิดจากแรงกดดันของ 4 หุ้นใหญ่ ได้แก่ DELTA, CPALL, AOT และ CPAXT ถึง 11 จุด และหากดูหุ้นที่ถูก SHORT หนัก ๆ ก็จะมี CPALL, AOT และ DELTA ซึ่งก็จะเห็นได้ว่าแรงกดดันที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาเฉพาะจุด ทิศทางของตลาดฯ ที่มองไว้จึงยังไม่เปลี่ยนแปลง กล่าวคือ เห็นแรงหนุนจากปัจจัยพื้นฐาน ทั้งในมุมของเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ดีขึ้น
ส่วนการประชุม กนง. วานนี้ผลออกมาตามคาดคือคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% และคาดว่าจะคงอยู่ใน ระดับดังกล่าวไปอีกระยะหนึ่ง ขณะที่ภาพ GDP GROWTH ได้มีการปรับลด ประมาณการลงโดยในปี 2566 คาดโต 2.4% ส่วนปี 2567 กรณีรวม DIGITAL WALLET อยู่ที่ 3.8% และกรณีไม่รวม 3.2% ซึ่งก็ยังถือเป็นสัญญาณฟื้นตัว เศรษฐกิจต่อเนื่อง ส่วนดอกเบี้ยสหรัฐ ถูกมองว่าจะปรับลดลงเร็วขึ้น วันนี้เป็นวันที่ MSCI ปรับตัวหุ้น อีกทั้งเป็นวันที่ต้องลุ้นว่า DELTA จะยังอยู่ใน SET50 รอบต่อไปหรือไม่ คาด SET INDEX ผันผวนในกรอบ 1380 – 1397 จุดแต่ไม่น่ากังวล หุ้นเด็ดได้แก่ GULF, SCGP และTISCO
ในมุมของ FED WATCH TOOL นักลงทุนมองว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ ระดับ 5.50% ถึงช่วงต้นปีเท่านั้น และจะทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่การประชุม เดือน มี.ค.67(ก่อนหน้านี้คาดเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่เดือน พ.ค.67) จนสิ้นปี คาดอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 4.25% โดย FED อาจปรับลดดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด หนุนเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง เพิ่มเติม ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นได้น่าจะได้รับ SENTIMENT เชิงบวกจากประเด็นดังกล่าว รวมถึง SET INDEX ส่วนหุ้นที่ฝ่ายวิจัยฯชื่นชอบจากกลุ่มข้างต้น คือ TIDLOR SAWAD MTC KKP TISCO LH AP SIRI ADVANC SCC TU เป็นต้น
ขณะที่ กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ดอกเบี้ยไว้ที่ 2.5% ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของปีที่ไม่ขึ้น ดอกเบี้ย นอกจากนี้ยังได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2566-67 แต่อย่างไร ก็ตาม แนวโน้มหลักไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ ธปท. มองว่าดอกเบี้ย 2.5% เป็นระดับที่ เหมาะสมกับการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพในระยะยาวแล้ว ทั้งนี้ หากไม่มี ปัจจัยเข้ามากระทบกับเสถียรภาพ เงินเฟ้อ เศรษฐกิจ อย่างมีนัยฯ ธปท. คาดว่า ดอกเบี้ยไทยไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปมากในระยะเวลาหนึ่ง
#สรุปภาวะการลงทุน #SET #StockReview #BusinessLineandLife #ข่าวการลงทุน #ข่าวหุ้น #สรุปสภาวะตลาด