GGC เดินหน้าขับเคลื่อนยุทธ์ศาสตร์ 3 มิติ “เข้มแข็ง-เติบโต-ยั่งยืน”
รุกเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจใหม่ เพิ่มโอกาสการเติบโตสู่ความยั่งยืนในอนาคต
(24 พฤศจิกายน 2566) - บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ “GGC” เร่งขับเคลื่อน
กลยุทธ์ เพื่อพัฒนาองค์กรทั้ง 3 มิติ “เข้มแข็ง-เติบโต-ยั่งยืน” พร้อมประกาศเดินหน้าลุยพัฒนาผลิตภัณฑ์ High Value Product ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ ควบคู่การรับมือกับ Business Landscape สู่การ
ตอบโจทย์ สร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืน เล็งเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจใหม่สยายปีกมากกว่า 50% และตอกย้ำเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2050
นายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยว่า ภาพรวมแผนกลยุทธ์ของ GGC ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรทางธุรกิจ ภายใต้ยุทธศาสตร์หลักทั้ง 3 ด้าน เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนพลังแห่งการสร้างสรรค์ เพื่อคุณค่าที่ยั่งยืน
เข้มแข็ง (Enhance Competitiveness) :รักษาความเข้มแข็งของธุรกิจปัจจุบัน อีกทั้งเตรียมความเข้มแข็งในองค์กร พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง เพื่อรองรับต่อสถานการณ์ที่กดดันต่อการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งการสร้างผลกำไรอย่างเต็มความสามารถ
เติบโต (Growth Portfolio) : ปรับ Portfolio ให้ชัดเจนสำหรับการลงทุนใน 3 กลุ่มธุรกิจ Bioenergy, Biochemical, Food Ingredients & Pharmaceutical ที่มีอัตราการเติบโตและความต้องการตามกระแสโลกและความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ยั่งยืน (Sustainability Development) :การดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG และได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมทั้งแสวงหาโอกาสทางธุรกิจจาก Decarbonization
ซึ่งการสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืนนั้น GGC ได้เตรียมพร้อมในการก้าวเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ที่เป็น High Value Product ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ปลายน้ำมากขึ้น (BioChemicals ) และมุ่งเน้นการเติบโตในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง อาหารเสริม (Food Ingredients & Pharmaceutical) ซึ่งจะเป็น Portfolio ใหม่ ที่จะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับแผนกลยุทธ์ระยะยาว จาก Business Landscape ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยได้ทบทวนเป้าหมายการดำเนินงานที่มาจากกลุ่มธุรกิจใหม่ โดยให้มีสัดส่วนรายได้มากกว่า 50%
“GGC มุ่งมั่นในการเป็นต้นแบบเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวมทั้ง 3 มิติ (Bio-Circular-Green Economy (BCG) Role Model) รวมทั้งพัฒนาการใช้พลังงานที่ไม่ทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไชด์ (Decarbonization Pathway) โดยบริษัทฯ ต้องการที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ
ให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050”
ในปีนี้ GGC ได้เข้าร่วมการประเมิน EcoVadis เพื่อประเมินแนวทางปฏิบัติที่มุ่งเน้นความยั่งยืน และความสามารถในการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตลอดทุกภาคส่วนธุรกิจ โดย GGC ได้รับรางวัลระดับ Silver ระดับ Top 25% ของโลก ในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตเคมีภัณฑ์พื้นฐาน ซึ่งผ่านการประเมินจาก 21 ตัวชี้วัดด้านความยั่งยืน ครอบคลุม 4 มิติ ได้แก่ สิ่งแวดล้อม แรงงาน สิทธิมนุษยชน จรรยาบรรณธุรกิจ และการจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืนจาก EcoVadis นอกจากนี้ GGC ยังได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการ ในระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” (Excellent) ติดต่อกันเป็นปีที่ 6 จากโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (CGR) ประจำปี 2566 จัดโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ภายใต้การสนับสนุนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินธุรกิจที่ยึดมั่นหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีได้อย่างครบถ้วน และมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
GGC ยังคงมุ่งมั่นเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เตรียมพร้อมในการรับมือและสร้างความแข็งแกร่ง รองรับการเติบโตของธุรกิจ ภายใต้การแสวงหาการลงทุนเพิ่มตาม Megatrend และธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโต สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ ภายใต้กลยุทธ์ "The New Chapter of GGC to be the Sustainable Growth Business" เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่ครอบคลุมทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (ESG) คำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม