หลักทรัพย์บัวหลวง
เปิดตัว 4 DR ใหม่ อ้างอิงหุ้นยุโรปรายแรกของไทยและ ETF หุ้นฮ่องกงชั้นนำ เริ่มซื้อขายวันแรก 16 พ.ย. 66
หลักทรัพย์บัวหลวง ผู้ออก DR เจ้าแรกของไทยต่อยอดความสำเร็จ ส่ง DR น้องใหม่เข้าตลาดหุ้นไทยพร้อมกัน 4 หลักทรัพย์ แบ่งเป็น 2 DR อ้างอิงหุ้นยุโรปรายแรกของไทย ในชื่อ “LVMH01” หุ้นผู้นำอาณาจักร
แบรนด์สุดหรูในยุโรป “ASML01” หุ้นสุดไฮเทคผู้ครองตลาดเครื่องผลิตชิปของโลก และ 2 DR อ้างอิง ETF
หุ้นชั้นนำในตลาดหุ้นฮ่องกง ในชื่อ “HK01” ETF ตัวแรกของฮ่องกงที่มีขนาดใหญ่และสภาพคล่องสูง
และ “HKCE01” ETF ที่รวมบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนในตลาดหุ้นฮ่องกง พร้อมซื้อขายวันแรก 16 พ.ย. 66 นี้
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ออก
ตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ หรือ Depositary Receipt (DR) เจ้าแรกของไทย เปิดเผยว่า
ปัจจุบัน DR01 ทั้ง 6 หลักทรัพย์ที่ออกโดยหลักทรัพย์บัวหลวง ในชื่อ E1VFVN3001, FUEVFVND01, NDX01, STAR5001, CN01 และ CNTECH01 ที่กระจายการลงทุนในดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ทั้ง 4ประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ จีน ฮ่องกง และเวียดนาม ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จากมูลค่าตลาดรวมประมาณ 12,000 ล้านบาท เทียบจากปี 2562 ที่มีมูลค่าไม่ถึง 1,400 ล้านบาท และปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ 12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562เฉลี่ยที่ 6 ล้านบาท
ล่าสุดบริษัทได้ต่อยอดความสำเร็จ ด้วยการเปิดตัว DR น้องใหม่ 4 หลักทรัพย์ แบ่งเป็น 2 DR อ้างอิงหุ้นยุโรป
รายแรกของไทย และ 2 DR อ้างอิง ETF หุ้นชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ได้แก่
1. DR “LVMH01” หุ้นผู้นำอาณาจักรแบรนด์สุดหรูในยุโรป DR ที่มีหลักทรัพย์อ้างอิงเป็นหุ้น LVMH Moet Hennessy Louis Vuitton SE ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Euronext Paris ประเทศฝรั่งเศส ถือเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในยุโรป สำหรับจุดเด่นของหุ้น LVMH คือ เป็นเจ้าของอาณาจักรสินค้าแบรนด์หรูขนาดใหญ่ที่สุด
ในโลกมากกว่า 75 แบรนด์ อาทิ Louis Vuitton, Christian Dior, Tiffany & Co และ TAG Heuer ซึ่งมีธุรกิจครอบคลุมแฟชั่นทั้งเครื่องหนัง นาฬิกา และอัญมณี กว่า 80 ประเทศทั่วโลก เรียกได้ว่า มีรายได้กระจายตัวไป
ทั่วโลกและเติบโตตามแนวโน้มตลาดสินค้าหรูที่ได้รับแรงหนุนมาจากประชากรชั้นกลางที่มีรายได้มากขึ้นในระยะยาว โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ฝั่งเอเชียที่กำลังมาแรง เช่น จีน อินเดีย และเกาหลีใต้ เป็นต้น
2. DR “ASML01” หุ้นสุดไฮเทคผู้ครองตลาดเครื่องผลิตชิปของโลก DR ที่มีหลักทรัพย์อ้างอิง
เป็นหุ้น ASML Holding N.V. ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Euronext Amsterdam ประเทศเนเธอร์แลนด์
จัดเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ในยุโรป ปัจจุบัน ASML เป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องผลิตชิปให้กับโรงงานผลิตชิปทั่วโลก โดยมีลูกค้าหลัก ได้แก่ TSMC, Samsung, Intel และยังเป็นผู้คิดค้นเทคโนโลยี Extreme Ultraviolet Lithography (EUV) ในเครื่องผลิตชิปแต่เพียงผู้เดียวในโลกที่ใช้สำหรับการผลิตชิปขั้นสูงที่มีลายพิมพ์ขนาดเล็ก ถือเป็นจุดแข็งที่สุดของบริษัททำให้เป็นผู้ผูกขาดตลาดเครื่องผลิตชิปอย่างแท้จริงล่าสุดครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 80% ทั่วโลก
3. DR “HK01” ETF ตัวแรกของฮ่องกงที่มีขนาดใหญ่และสภาพคล่องสูง DR ที่มีหลักทรัพย์อ้างอิงเป็น
Tracker Fund of Hong Kong เป็น ETF อ้างอิงดัชนี Hang Seng เรือธงของฮ่องกง ปัจจุบันดัชนี Hang Sengมีบริษัทจีนและฮ่องกงยักษ์ใหญ่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง จำนวน 80 หลักทรัพย์ และในอนาคตมีแผนจะเพิ่มขึ้นเป็น 100 หลักทรัพย์ เช่น Tencent (0700), Alibaba (9988) และ Meituan (3690) รวมถึงบริษัทฮ่องกงชั้นนำ เช่น HSBC (0005), AIA (1299) และ HKEX (0388) ถือเป็นดัชนีที่ใช้สะท้อนความเคลื่อนไหวของภาพรวมตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง
ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของผู้ลงทุนไทย
4. DR “HKCE01” ETF ที่รวมบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง DR ที่มีหลักทรัพย์อ้างอิงเป็น Hang Seng China Enterprises Index ETF ที่มีขนาดใหญ่และสภาพคล่องสูงเป็นอันดับ 2 ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และลงทุนอ้างอิงดัชนี Hang Seng China Enterprises ที่มีบริษัทจีนชั้นนำจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงจำนวน 50 หลักทรัพย์ ทั้งนี้ DR HK01 และ DR HKCE01 บริหารจัดการโดย Hang Seng Investment Management บลจ. อันดับ 1 ของฮ่องกง ในแง่ของสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นผู้นำ
ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภท ETF ในฮ่องกง โดยปัจจุบันมีกอง ETF ที่ลงทุนอ้างอิงดัชนีถึง 27 กอง
ในปี 61 หลักทรัพย์บัวหลวง ถือเป็นผู้ออก DR ตัวแรกของไทย ในชื่อ E1VFVN3001 ซึ่งได้รับกระแสตอบรับจาก
ผู้ลงทุนไทยเป็นอย่างดี และในปี 66 ยังถือเป็นผู้ออก DR บนหุ้นยุโรปเจ้าแรกของไทยอีกด้วย คาดว่า 4 DRใหม่จะได้การตอบรับอย่างดีจากผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนไปต่างประเทศ เนื่องจากปัจจุบันราคาหุ้นที่ 4 DR อ้างอิงมีมูลค่าหุ้นที่น่าสนใจ โดย LVMH มีค่า P/E 20 เท่า เมื่อเทียบค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 26 เท่า ราคาหุ้นปัจจุบัน 26,000 บาท อัตราส่วน 1:1600 ขณะที่ASML มีค่า P/E 30 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 32.4 เท่า ราคาหุ้นอยู่ที่ 20,000 กว่าบาท อัตราส่วน 1:1200 ส่วน HK01 มี P/E 9 เท่า ถือว่าค่อนข้างถูกเมื่อเทียบค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 11.4 เท่า
ราคาหุ้นอยู่ที่ 80 บาท อัตราส่วน 1:5 และ HKCE01 มีP/E 8 เท่า เมื่อเทียบค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 9.2 เท่า
ราคาหุ้นอยู่ที่ 270 บาท อัตราส่วน 1:15 โดยเมื่อปรับอัตราส่วนดังกล่าวแล้วจะทำให้ราคา DR ทั้ง 4 หลักทรัพย์
อยู่ที่ประมาณ 20 บาทต่อหุ้น ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนเข้าถึงการลงทุนในต่างประเทศได้ง่ายมากขึ้น
ทั้งนี้ 4 DR ใหม่ของหลักทรัพย์บัวหลวงจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วยกระบวนการ Direct Listing ซึ่งผู้ลงทุนสามารถซื้อขาย DR น้องใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เลยตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 66 นี้
เป็นต้นไป (โดยไม่ต้องจองซื้อล่วงหน้าเหมือนกรณี IPO) ทั้งนี้ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียด DR01เพิ่มเติมได้ที่ www.bualuang.co.th/dr หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม BLS Customer Service โทร. 0 2618 1111
“หลังจาก 4 DR ใหม่เข้าตลาดแล้วเราจะมี DRทั้งหมด 10 หลักทรัพย์ที่ซื้อขายในกระดานหุ้นไทย
ปัจจุบัน DR01 ของบริษัทได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี สะท้อนจากมูลค่าตลาดตั้งแต่เริ่มซื้อขายที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะ DR ที่อ้างอิงตลาดหุ้นเวียดนาม “E1VFVN3001” มีมูลค่าตลาดประมาณ 5,000 ล้านบาท
(ตัวเลข ณ วันที่ 31 ต.ค. 66) เพิ่มจาก 601 ล้านบาท (ตัวเลข ณ วันที่ 18 ธ.ค. 61) และ “FUEVFVND01” ลงทุนในหุ้นที่ติดข้อจำกัดเพดานการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ มีมูลค่าตลาดประมาณ 5,500 ล้านบาท
(ตัวเลข ณ วันที่ 31 ต.ค. 66) เพิ่มจาก 1,018 ล้านบาท (ตัวเลข ณ วันที่ 31 มี.ค. 65)” นายพิเชษฐ กล่าว