“ก.ล.ต.” นับหนึ่งไฟลิ่ง “NAT” ผู้เชี่ยวชาญด้านInfratech และ บริการเทคโนโลยีครบวงจร

“ก.ล.ต.” นับหนึ่งไฟลิ่ง “NAT” ผู้เชี่ยวชาญด้านInfratech และ บริการเทคโนโลยีครบวงจร

เตรียมขาย IPO 92 ล้านหุ้น เข้าเทรด mai

ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ บริษัท แนท แอบโซลูทเทคโนโลยีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NAT ผู้เชี่ยวชาญด้าน Infratech ในส่วนงานโครงสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร บริการด้านเทคโนโลยีครบวงจรแก่องค์กรชั้นนำของประเทศ เตรียมขายไอพีโอ 92 ล้านหุ้น เข้าตลาดหลักทรัพย์ mai เสริมศักยภาพการเติบโตธุรกิจ เพิ่มโอกาสการเข้ารับงานโครงการภาครัฐ-เอกชน

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาการเงิน บริษัท แนทแอบโซลูท เทคโนโลยีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NAT เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ หรือ ไฟลิ่ง เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) ของ NAT เมื่อวันที่ 10.66 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นางสาวมธุรส สาราณียะธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเสริมว่าปัจจุบัน แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ หรือ NATมีทุนจดทะเบียน 164 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท และ มีทุนที่เรียกชำระแล้ว 118 ล้านบาท โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 92 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 28.05% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและจำหน่ายแล้วของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ จะนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจ เทคโนโลยี (TECH)

นายสุธี อภิชนรัตนกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์จำกัด (มหาชน) หรือ NAT กล่าวถึง การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัท ในการเสริมสร้างศักยภาพทางการเงิน เพื่อขยายธุรกิจให้มีความแข็งแกร่ง และ เพิ่มโอกาสการเข้ารับงานโครงการต่าง ๆ ที่มีแนวโน้มความต้องการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่มากขึ้นในอนาคต

NAT เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Infratech ในส่วนงานโครงสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร บริการด้านเทคโนโลยีครบวงจรแก่องค์กรชั้นนำของประเทศ โดยบริษัทแบ่งการให้บริการออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1.ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์พร้อมติดตั้ง ละรับเหมาวางระบบที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology System Integration) และ 2.ธุรกิจให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เช่น บริการเจ้าหน้าที่ไอที (IT Outsourcing)บริการเดินสายระบบเน็ตเวิร์ค (Cabling System)บริการงานด้านระบบภายในอาคาร (Mechanical and Electric : M&E) และ บริการให้เช่าเครื่องพิมพ์เอกสาร เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องคอมพิวเตอร์โนตบุ๊ เป็นต้น โดยในปี 2563 – งวด 6 เดือน ปี 2566บริษัทมีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าภาครัฐอยู่ประมาณ66.54% - 89.34และ ภาคเอกชนอยู่ประมาณ10.66% - 33.46% ของรายได้จากการขายและบริการ

ทั้งนี้ บริษัทมุ่งเน้นดำเนินตามแผนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเทคโนโลยีชั้นนำจากพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลกมาใช้ในการพัฒนาโซลูชั่น และ บริการที่ดีที่สุด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และ สนับสนุนให้ลูกค้ามีความพร้อมในการขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิทัล โดยมีเป้าหมายการขยายกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้นทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ กลุ่มโรงพยาบาล และ กลุ่มพลังงาน

นอกจากนี้บริษัทยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีการรักษควมปลอดภัยทงไซเบอร(Cybersecurity) โดยเตรียมความพร้อมพัฒนาระบบดังกล่าวเพื่อให้บริการแก่กลุ่มลูกค้า ทั้งการปรึกษา ออกแบบ จัดหา หน่ายอุปกรณ์พร้อมติดตั้ง และ งระบบที่เกี่ยวข้องกับควมปลอดภัยทงเครือข่ายองค์กร เพื่อการเก็บรักษาข้อมูลที่ปลอดภัย ป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีความซับซ้อน และ ลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามที่อาจมีผลกระทบต่อระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของธุรกิจ

สำหรับผลประกอบการตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวมในปี 2563 – 2565 อยู่ที่ 492.64 ล้านบาท 451.36 ล้านบาท และ 1,093.23ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 56.78ล้านบาท 26.68 ล้านบาท และ 100.62 ล้านบาทตามลำดับ และในงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 รายได้รวม 788.25 ล้านบาท กำไรสุทธิ 65.48 ล้านบาท