สมาคมนักศึกษาสถาบันวิทยาการตลาดทุน จัดงาน ACMA Business Forum 2023 ภายใต้หัวข้อ “Consultative Dialogue: Thailand Ahead” โลกกำลังปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วทุกภาคส่วนไม่ว่าประเทศ ธุรกิจหรือองค์กรต่าง ๆ
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา นายกสมาคมนักศึกษาสถาบันวิทยาการตลาดทุน เผยว่า ในนามของสมาคมนักศึกษาสถาบันวิทยาการตลาดทุน ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งานสัมมนาวิชาการประจำปีของสมาคม ACMA Business Forum 2023 โดยในปีนี้จัดในหัวข้อ “Consultative Dialogue: Thailand Ahead” ด้วยตระหนักว่าโลกกำลังปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วทุกภาคส่วนไม่ว่าประเทศ ธุรกิจหรือองค์กรต่าง ๆ จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้อยู่รอดและยั่งยืนต่อไปในอนาคต การมองไม่รอบด้าน ไม่รู้ทันการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดในข้างหน้าอาจทำให้ ประเทศและธุรกิจขาดศักยภาพในการแข่งขัน และไม่สามารถตอบโจทย์ของอนาคตอันใกล้ได้ ทุกภาคส่วนจึงต้องปรับเปลี่ยนไปพร้อม ๆ กับบริบทของประเทศ ที่ต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกัน จึงเป็นที่มาของหัวข้อการสัมมนาวิชาการ ของสมาคมนักศึกษาสถาบันวิทยาการตลาดทุนในปีนี้
ปัจจุบันความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย จากการจัดลำดับล่าสุด ปี 2566 ถึงแม้ดีขึ้นจากปี 2565 คือ ขึ้นมา 3 ลำดับ มาอยู่ที่ลำดับ 30 จาก 64 เขต เศรษฐกิจ แต่จะพบว่าเรามีความสามารถในการแข่งขันลดตัวลงจาก 4 ปีที่แล้ว และเมื่อพิจารณาจากกลุ่มย่อย เราปรับตัวได้ดีจากสมรรถนะทางเศรษฐกิจ แต่เรายัง ไม่ดีขึ้นในกลุ่มของโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องปรับปรุง อาทิ โครงสร้างพื้นฐาน ด้านวิทยาศาสตร์ และที่มีช่องว่างมากที่สุดคืออยู่อันดับที่ 54 จาก 64 ประเทศ ได้แก่ ด้านโครงสร้างพื้นฐานการศึกษา สมรรถนะของเศรษฐกิจไทย ที่ปรับขึ้นอย่างมากในปี 2566 มาอยู่ที่ลำดับที่ 16 จากลำดับที่ 34 ในปี 2565 เป็นผลมากจากหลายส่วนทั้ง FDI ที่มาลงทุนในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น การท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้นหลังโควิด
อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายอยู่อีกมากในระบบเศรษฐกิจไทย ซึ่งกลไกในตลาดทุนไทย จึงเป็นกลไกหลักที่มีผล ในการสนับสนุนการเติบโตพัฒนาการของภาคธุรกิจ และระบบเศรษฐกิจไทยดูได้จาก ในปี 2565 ที่มีการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล จากบริษัทจดทะเบียนคิดได้เป็น สัดส่วนร้อยละ 50.2% ของภาษีเงินได้นิติบุคคลทั้งหมด รวมทั้งการจ้างงานของ บริษัทจดทะเบียน มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นทุกปี โดยมีการเติบโตเฉลี่ยต่อปีเกือบ 4% นอกเหนือจากบทบาทสำคัญ ของตลาดทุนที่เป็นแหล่งเงินทุนธุรกิจดูได้จากสัดส่วน แหล่งเงินทุนภาคธุรกิจที่มาจากตลาดทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีความท้าทายอย่างมากในตลาด เพราะถึงแม้การเติบโตของนักลงทุน และมูลค่าซื้อขาย รวมทั้งมูลค่าตลาด แต่คนไทยยังเข้าถึงการลงทุนเป็นสัดส่วนที่น้อย เมื่อเทียบกับประชากร ซึ่งสัดส่วนผู้ลงทุนในหลักทรัพย์ต่อจำนวนประชากร เท่ากับ 6% ในปี 2565 รวมทั้งการที่ประชากรไทย ยังมีสัดส่วนของหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ในระดับสูงเกือบ 90%
ซึ่งนอกจากจะได้องค์ความรู้ข้อเท็จจริง ข้อเสนอแนะ นำไปสู่การเตรียมความพร้อม ในการปรับเปลี่ยนองค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สามารถแข่งขัน และสามารถเติบโตในตลาดโลกได้อย่างดีและแข็งแรง และผมเชื่อว่า เมื่อองค์กรต่าง ๆ ของประเทศ แข็งแรงจะสามารถเป็นแรงผลักดันสำคัญ ที่จะเสริมสร้างให้ประเทศไทยของเราเติบโตมากขึ้น
#StockReview #BusinessLineandLife #ข่าวธุรกิจ #ข่าวประจำวัน #สมาคมนักศึกษาสถาบันวิทยาการตลาดทุน #ACMABusinessForum2023 #ข่าวเศรษฐกิจ
