บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM จัดงาน BAM ESG DAY 2023 เป็นปีแรก ภายใต้ชื่องาน Growing Sustainable Together "ก้าวไปด้วยกัน... อย่างยั่งยืน"
นายบัณฑิต อนันตมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) กล่าวแสดงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจโดยใช้หลัก ESG มาเป็นกรอบในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตควบคู่กับความยั่งยืน พร้อมเปิดมุมมองเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจด้วยหลัก ESG ว่า ในปี2566 BAM จะขับเคลื่อน 4 กลยุทธ์สำคัญ พร้อมเดินหน้าไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ภายใต้แนวคิด 5 ดี ประกอบด้วย ดีต่อประเทศ ดีต่อสังคม ดีต่อลูกค้าหรือลูกหนี้ ดีต่อผู้ถือหุ้น และดีต่อพนักงาน เพื่อสร้างการเติบโตในทุกมิติที่เกี่ยวข้องโดยกลยุทธ์ 4 ด้าน ประกอบไปด้วย
1. ด้านการเงิน (Financial Optimization) เร่งรายได้เข้าตามเป้าหมาย เพิ่มผลลัพธ์ทางการเงินไปพร้อมกับการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน รวมถึงขยายขอบเขตและปรับปรุงรูปแบบธุรกิจ
2. ด้านกระบวนการทำงานภายในองค์กร (Business Process Excellence) รักษาคะแนนการประเมินการกำกับดูแลกิจการ (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies 2021 : CGR) ในระดับ 5 ดาว และยกระดับผลการประเมิน (THSI RATING) ให้อยู่ในระดับดีขึ้น
3. ด้านลูกค้า (Brand Enhancement) สร้างการรับรู้และสื่อสารภาพลักษณ์องค์กรอย่างต่อเนื่องและสร้างDigital Transformation Solution เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าและพนักงานแบบ 360 องศา ครบวงจร
4. ด้านการเรียนรู้และการพัฒนา (Digital Literacy) ปรับกระบวนการทำงานให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น และสร้างวัฒนธรรมและค่านิยม BAMGO (Roadmap to BAMGO)
นอกจาก 4 กลยุทธ์ดังกล่าวแล้ว BAM ยังได้ขับเคลื่อนโครงการต่างๆ เพื่อมุ่งพัฒนาสู่องค์กรที่มีรากฐานความยั่งยืนตามกรอบการดำเนินงานที่ถูกต้องในแต่ละมิติ ดังนี้
1. มิติสิ่งแวดล้อมในมิติสิ่งแวดล้อม BAM ได้ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2065 ซึ่งสอดคล้องและเป็นไปตามเป้าหมายประเทศ โดยมีโครงการ Go Green Together ที่ดำเนินการและสนับสนุนอย่างจริงจังเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(Climate Change) และเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้ง Solar Rooftop ที่สำนักงานใหญ่ และสำนักงานสาขา โครงการปลูกป่า Care the Wild ร่วมกับกรมป่าไม้และSET เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชน เพื่อให้คนในชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นและสามารถพึ่งพาตนเองได้โครงการสนับสนุนการเปลี่ยนยานยนต์เชื้อเพลิงมาเป็นยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โครงการบริหารจัดการขยะและของเสีย โครงการลดค่าใช้จ่ายการถ่ายเอกสาร ลดการใช้กระดาษและทำงานผ่านระบบดิจิทัล รวมถึงการสร้างจิตสำนึก Green Awareness ให้กับกลุ่มพนักงาน โดยผ่าน โครงการ 8R (Rethink Recover Repair Refuse Recycle Reuse Reduce Regift) และโครงการสำนักงานสีเขียว (Green Office)
2. มิติสังคม : นอกจากโครงการด้านสังคมที่เราทำเป็นประจำอยู่แล้ว ในปีนี้ BAM มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมสิทธิมนุษยชนแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายในกระบวนการดำเนินธุรกิจ ด้วยการให้ความรู้ การตรวจสอบอย่างรอบด้าน และปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม โดยเข้าร่วมประกวดองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน (Human Rights Awards)
3. มิติธรรมาภิบาล : โครงการ Good Governance BAM มุ่งมั่นให้เกิดการจัดการด้านธรรมาภิบาลและการกำกับดูแลกิจการภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพ พร้อมสร้างวัฒนธรรมที่ยึดมั่นในหลักจริยธรรมและที่สำคัญในทุกๆปี BAM ก็จะมีกิจกรรมการปฏิญาณตนและแสดงเจตนารมณ์ร่วมต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของผู้บริหารและพนักงานเพื่อแสดงพลังในการรณรงค์ส่งเสริมวัฒนธรรมสุจริต ธรรมาภิบาลและความโปร่งใส ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้องค์กรก้าวไปสู่ความยั่งยืน
โดยที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เกิดจากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่พวกเราทุกคนร่วมกันขับเคลื่อน "โดยใช้แนวคิดด้านการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ที่คำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาลและการกำกับดูแลกิจการที่ดี ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ธุรกิจด้วยการสะท้อนบทบาทความรับผิดชอบของธุรกิจที่มีต่อสังคมและผู้มีส่วนได้เสียได้อย่างยั่งยืน"