KBANK ตั้ง KIV บริษัทใหม่เจาะตลาดกลุ่มลูกค้าใหม่ ตั้ง14บริษัทงบ30,000ล้านบาทพัฒนาระบบ เจาะปล่อยกู้ไม่ต้องโชว์ Statement
พัชร สมะลาภา Group Chairman บริษัท กสิกร อินเวสเจอร์ จำกัด - KIV กล่าวว่าเป็นบริษัทโฮลดิ้งภายใต้กลุ่มธุรกิจทางการเงิน เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ต่างจากธนาคารกสิกรไทย เนื่องจากในกลุ่มคนไทยในปัจจุบันต้องเผชิญกับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ถือว่าสูงมาก และยังมีบางกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินในระบบ หรือกลุ่มUnbanked, Underserved ในการนี้จึงได้มีการจัดตั้งบริษัทเคไอวีขึ้นมาเพื่อลงทุนในบริษัทร่วมกับพันธมิตร สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของธนาคารที่มุ่งเพิ่มอำนาจให้ทุกชีวิตและธุรกิจของลูกค้า (Empower Every Customer’s Life and Business)
โดยบริษัทเคไอวีจะมีบทบาทสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งของธนาคารและพันธมิตร เพื่อสร้างรายได้บนความเสี่ยงที่คุ้มค่า ด้วยต้นทุนที่เหมาะสม เพื่อในการลดต้นทุนธุรกิจและลดต้นทุนความเสี่ยงด้านเครดิตไปพร้อมๆ กัน ในปัจจุบัน บริษัทที่อยู่ในโครงสร้างของเคไอวี ประกอบด้วย 14 บริษัท มีมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 30,000 ล้านบาท .
บริษัทฯจึงได้นำ 2 แนวทางหลัก ดังนี้ ลดต้นทุนธุรกิจ และ จับมือพันธมิตร เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ไม่มีบัญชีธนาคาร, ผู้ที่มีบัญชีธนาคารแต่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของธนาคารได้ ทำให้การขอสินเชื่อจากธนาคารมีความยากลำบาก ดังนั้นทางธนาคารกสิกรไทยจึงวางยุทธศาสตร์เรียกลูกค้า - ลดต้นทุน โดยแยก กสิกร อินเวสเจอร์ ออกมา ‘ลงทุนในบริษัทร่วมกับพันธมิตร’ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งทั้งของธนาคารและพันธมิตรด้วยการสร้างรายได้บนความเสี่ยงที่คุ้มค่า จากต้นทุนที่เหมาะสม เช่น LINE และ Grab ซูเปอร์แอปใกล้ตัวที่มีผู้ใช้งานคนไทยจำนวนมาก และทุกๆ การใช้งานการใช้จ่าย ก็จะมีการบันทึกข้อมูลจากความยินยอมจากลูกค้าอัตโนมัติ
นอกจากนี้ มีการดึงเทคโนโลยี ‘Data Analytics’ ที่จะช่วยเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้ง่ายขึ้น เพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการการเงิน และลดความเสี่ยงให้ธนาคาร โดยจะเข้าถึงข้อมูลที่ลิงก์ถึงกันทำให้ธนาคารเห็นพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอย ประวัติการชำระบิล ชำระหนี้ของผู้ใช้งาน และการมีข้อมูลที่มากพอก็สามารถนำมาวิเคราะห์รูปแบบการใช้จ่ายรายบุคคลได้ เป็นการเปิดโอกาศทางให้ฟรีแลนซ์ เอสเอ็มอี พ่อค้าแม่ค้า ที่มีการบริหารจัดการเงินได้ดีและมีความรับผิดชอบ ได้รับการพิจารณาสินเชื่อผ่านระบบอย่างรวดเร็ว รู้ผลไว โดยไม่ต้องยื่น Statement และไม่ต้องรอผลการพิจารณาเป็นวันๆ หรือเป็นสัปดาห์อีกต่อไป แต่อย่างไรก็ตามทางธนาคารก็ยังต้องขอดู Statement เนื่องจากผู้ใช้งานอาจปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขให้ตัวเลขผ่านเกณฑ์ได้ ดังนั้น เราจึงหาทางเพื่อจะได้ข้อมูลที่แม่นยำขึ้นผ่านช่องทางอื่นโดยใช้เทคโนโลยี ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อ Underbank คนคุณภาพที่อยากได้สินเชื่อเพื่อไปทำสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้นและพร้อมจ่าย
#KIV #KBANK #SET #StockReview #BusinessLineandLife #ข่าวหุ้น #ข่าวธุรกิจ
