Aira เดินเกมรุกลุยบริการซื้อ - ขายหลักทรัพย์ในต่างประเทศ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนกลุ่มGlobal Trading เป็น 30% ใน 2 ปี จ่อผนึกตลาดหลักทรัพย์โตเกียว
นายไพโรจน์ เหลืองเถลิงพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) เผยว่าบล.ไอร่าฯ ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ มีบริการหลากหลายประเภท ทั้งการให้บริการ Traditional Trade ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการขยายไปยังตลาดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ในต่างประเทศ , ธุรกิจที่สร้างรายได้จากดอกเบี้ย หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยสินเชื่อเพื่อการซื้อขายหลักทรัพย์ การให้บริการด้านวาณิชธนกิจ บริการด้านที่ปรึกษาทางการเงินอย่างครบวงจรรวมถึงการให้บริการจัดการกองทุนส่วนบุคคล ที่ผ่านมา Aira มีการขยายบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการมุ่งเน้นขับเคลื่อนธุรกิจแพลตฟอร์มซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ ลงทุนหุ้นในต่างประเทศ ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต เพื่อเข้าถึงการลงทุนในหุ้น และ ETFs ทั่วโลกโดยปัจจุบันบล.ไอร่ามีฐานลูกค้าในกลุ่มGlobal Trading ประมาณ 500-600 ราย และเป็นกลุ่มลูกค้าที่Active มากกว่า 100 ราย ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท หากแบ่งสัดส่วนกลุ่มลูกค้า Global Trading ที่ซื้อขายในตลาดต่างประเทศ อันดับแรกจะเป็นตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ประมาณ 70%, ตลาดหุ้นฮ่องกง ประมาณ 20% และตลาดหุ้นญี่ปุ่นประมาณ 10%
การที่ Aira หันมาให้ความสำคัญกับ Global Trading เนื่องจากมองเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดดังกล่าว เพราะพฤติกรรมนักลงทุนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเปลี่ยนไปตามเทรนการลงทุนในตลาดโลก ส่งผลให้กลุ่มนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มหันมาศึกษาการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศมากขึ้นเพราะการเทรดในตลาดต่างประเทศให้ผลตอบแทนที่สูงและคุ้มค่ากว่าเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นไทยโดยมีผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ยในตลาดหุ้นที่สำคัญ YTD เช่น NASDAQ (อเมริกา) สูงถึง 37.1%, NIKKEI (ญี่ปุ่น) 27.1%, S&P500 (อเมริกา) 19.5%, HANG SENG (ฮ่องกง) 1.5% และ FTSE 100 (สหราชอาณาจักร) 3.3% ขณะที่ผลตอบแทนตลาดหุ้นไทยช่วงเดียวกันติดลบ 6.7%
ปัจจุบัน บล.ไอร่าฯ มีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าของพอร์ตโดยรวมที่สนใจลงทุนในตลาดต่างประเทศ 20-30%โดยนักลงทุนส่วนใหญ่จะลงทุนหุ้นกลุ่มใหม่ๆที่อยู่ในกระแสการลงทุนของตลาดโลก เช่น กลุ่มArtificial Intelligence (AI), กลุ่ม Semiconductors, กลุ่ม Tech Software, กลุ่ม EV (Electric Vehicle) และหุ้นกลุ่มที่มีความอย่างยั่งยืน (ESG) ซึ่งจากสัดส่วนพอร์ตการลงทุนในต่างประเทศที่สูงขึ้น ทำให้บริษัทฯตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนนักลงทุน Global Trading เป็น 30% ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีสัดส่วน 10% ของมูลค่าCommission ทั้งพอร์ต
ล่าสุด บล.ไอร่าฯ เตรียมผนึกกำลังกับตลาดหลักทรัพย์โตเกียวและ Sumitomo Mitsui Trust Asset Management ในการจัดงานสัมมนาแบบExclusiveในประเทศไทย ในหัวข้อ : Japanese Equity Investment เพื่อแนะนำให้นักลงทุนไทยรู้จักและเข้าไปลงทุนในตลาดญี่ปุ่นมาก อย่างไรก็ตาม นายไพโรจน์ฯ กล่าวว่า การที่ Tokyo Stock Exchange(TSE) ร่วมเป็นพันธมิตรกับ บล.ไอร่าฯ ในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำศักยภาพการของกลุ่ม ไอร่า กรุ๊ป ในการขยายเครือข่ายพันธมิตรต่างประเทศ ซึ่งเป็นการช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกลุ่มบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ บล.ไอร่าฯ ยังประสานงานกับสถาบันการเงินอื่น ๆ ของญี่ปุ่น ที่มีบริษัทลูกค้าญี่ปุ่นสนใจลงทุนในบริษัทในประเทศไทย ในลักษณะ Direct Investment ซึ่งจะเป็นการเพิ่มนักลงทุนในหุ้นสามัญไทยในช่วงที่บริษัทโดยทั่วไปมีสัดส่วนหนี้สินค่อนข้างสูง โดยที่ผ่านมา บล.ไอร่าฯ ได้ทำ Cross Boarder M&A กับบริษัทญี่ปุ่นมาหลายรายการ ตัวอย่างธุรกิจที่อยู่ในความสนใจ เช่น อาหาร ,การขนส่ง, ไอที, บรรจุภัณฑ์, ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา วิศวกรรมระบบไฟฟ้าและเครื่องกลภายในอาคาร การรักษาความปลอดภัย เป็นต้น
#Aira #ไอร่า #บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า #StockReview #ข่าวหุ้น #ข่าวประจำวัน