บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด
(มหาชน) หรือ SNNP ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวอย่าง
เบนโตะ เจเล่ หรือ ขนมขาไก่ โลตัส ที่ไม่ได้ทำตลาดจนเป็นที่รู้จักเฉพาะในปรเทศไทย
แต่ยังได้ขยายธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศ CLMV อย่างกัมพูชา สปป.
ลาว และเวียดนาม
"ศรีนานาพร" ได้เข้าตลาดหุ้นเมื่อปี 64 จากรายได้ 4,400 ล้านบาท พร้อมกับเป้าหมายมุ่งสู่ "ผู้นำตลาดด้านผู้ผลิตขนมขบเคี้ยวในอาเซียน" ซึ่งวางเป้าผลักดันรายได้แตะ 8,000 ล้านบาท ภายในปี 69
จากพ่อค้าส่งขนมสู่เจ้าของแบรนด์สี่พันล้าน
คุณวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล เริ่มต้นช่วยแม่ขายส่งขนมข้างโรงหนังปารีส ย่านตลาดมหานาค ในชื่อ “ศรีวิวัฒน์” หรือ “ตั้งกิมเฮง” ต่อมากิจการดี ขยับขยายมาเป็นยี่ปั๊วส่งขนมแถบชานเมืองและภาคกลางในชื่อ “ศรีเจริญพาณิชย์” เริ่มสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองแต่สินค้าหลายตัวก็ไม่ประสบความสำเร็จล้มลุกคลุกคลาน กว่าจะมาปังกับ เจเล่ เบนโตะ โลตัส ดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2515 มากกว่า 30 ปี
ผลิตภัณฑ์ของบริษัทแบ่งออกเป็น 2
กลุ่มหลัก
1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว
ได้แก่ เบนโตะ ขนมขาไก่โลตัส เบเกอรี่เฮ้าส์ และขนมเวเฟอร์ช๊อคกี้
2. กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ได้แก่ เจเล่, เมจิกฟาร์มเฟรช และเครื่องดื่มวิตามิน เจเล่ อควาวิตซ์
SNNP มีโรงงาน 6
แห่ง ประเทศไทย 4
แห่ง, กัมพูชา 1 แห่ง และเวียดนาม 1 แห่ง
ร้านโชว์ห่วย และ CLMV คือ โฟกัส
ถ้าแบ่งช่องทางการขายในประเทศ 80% ต่างประเทศ 20% มีขายกว่า 35 ประเทศ แต่ที่เน้น คือ เวียดนาม และกัมพูชา โดยสัดส่วนเวียดนามสูงกว่าและโตเร็ว จึงเป็นเหตุผลที่ SNNP จะไปตั้งโรงงานที่นั่นเพิ่มเติม ในประเทศขายเจเล่ มากกว่าเบนโตะอยู่นิดหน่อย แต่ถ้าเป็นต่างประเทศขายเบนโตะ และโสตัสมากกว่า อนนี้ตั้งตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายแล้วที่จีน แต่ยังไม่โฟกัสเท่า CLMV 52% ขาย Modern Trade (MT) โลตัส บิ๊กซี ท๊อปส์ 7-11 และ 48% ขาย Traditional Trade คือ ร้านโชว์ห่วยต่างๆ
รุกตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง มุ่งเป็นผู้นำด้านขนมขบเคี้ยว
บริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 รายการ โดยเตรียมรุกตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง
ภายใต้แบรนด์ "เมจิกฟาร์ม" ซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใบกระท่อม
เป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย
ซึ่งได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว
นำร่องด้วยรสชาติกลิ่นชามะนาว หลังจากมองว่า ปัจจุบันเครื่องดื่มชูกำลัง
มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท
บริษัทคาดหวังส่วนแบ่งการตลาดราว 5% ใน 3 ปี หรือ ยอดขาย 1 ล้านขวดต่อเดือน
หรือเป็นมูลค่า 10
ล้านบาทต่อเดือน เริ่มวางตลาดวันที่ 1 ส.ค.66 ในราคาขวดละ 10 บาท
ส่วนผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Jele ซึ่งเป็นที่รู้จักในตลาดแล้ว
จะมีการขยายไลน์ เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมผสมวิตามินทั้งหลาย เช่น วิตามินซี ออกเป็นสินค้านวัตกรรมใหม่
นอกจากนี้ ขนมขบเคี้ยว "เบนโตะ" ยังมีแผนเป็น เบนโตะ Shop แห่งแรก ในศูนย์การค้าบิ๊กซี สาขาราชดำริ ในไตรมาส 4/66 ควบคู่กับการนำสินค้าของ SNNP ร่วมวางจำหน่าย รองรับตลาดนักท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้น
เติบโตอย่างรวดเร็ว ลุ้นปี 66 กำไรนิวไฮ
นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ
บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) (SNNP)
เปิดเผยว่า กผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ “โลตัส” จะได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้บริโภค
ซึ่งในแต่ละผลิตภัณฑ์ที่ออกมานั้นมุ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มที่มีความหลากหลาย
ด้วยรสชาติที่เป็นที่นิยม และถูกปากคนไทย
โดยเชื่อมั่นว่าแบรนด์โลตัสจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรายได้ให้บริษัทฯ
สนับสนุนยอดขายปี 66 เติบโตอย่างแข็งแกร่งตามแผนงานที่วางไว้
จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่าปี 66 รายได้แตะ 6,500 ล้านบาท หรือเติบโตเลข 2 หลัก และมีโอกาสที่จะส่งผลให้กำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่
จากปี 65 ที่มีกำไรสุทธิ 515 ล้านบาท
และมั่นใจรายได้จะแตะ 8,000 ล้านบาท
เร็วกว่าเป้าที่ตั้งไว้ตอน IPO
"ยอดขายไตรมาส 3/66 ควรจะดีกว่าไตรมาส 2/66 เพราะออกสินค้าใหม่ปลายเดือนพ.ค.ถึงต้นมิ.ย.
ส่วนไตรมาส 4
จะเป็นไตรมาสที่ยอดขายดีที่สุดของปี จะพีคทั้งยอดขายและกำไร
เพราะเป็นไฮซีซั่นโดยเฉพาะเบนโตะ ยอดขายจะสูงสุดในไตรมาส 4 และสัดส่วนรายได้เบนโตะที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจะหนุนมาร์จินสูงขึ้นด้วย
เพราะเบนโตะมาร์จิ้นดีกว่าเจเล่ 3-4% พอเบนโตะขายดี
มาร์จิ้นก็ดีขึ้น"
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้มาจากขนมขบเคี้ยว เบนโตะ 45% เครื่องดื่ม เจเล่ 42-43% ที่เหลือ
เป็นเมจิกฟาร์มเฟรช ขนมขาไก่โลตัส