CCP เผยแนวโน้มครึ่งปีหลัง 66 ฟอร์มดี โตต่อเนื่อง
เร่งปรับปรุงกระบวนผลิต ออกสินค้าใหม่ รับอานิสงส์ต่างชาติย้ายฐานลงทุน
CCP เผยแนวโน้มธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง 2566 ฟอร์มดีโตต่อเนื่อง คว้างานเมกะโปรเจกต์ เพิ่มโครงการ EEC เร่งก่อสร้าง ปัจจัยหนุนนักลงทุนต่างชาติย้ายฐานการผลิต ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป (Precast) เพิ่ม ยกระดับกระบวนการผลิต ลดต้นทุนแรงงาน พัฒนาสินค้าใหม่ ขยายฐานลูกค้าโครงการระยะสั้นทั่วประเทศ รับรู้รายได้เร็ว ประมูลงานรัฐ-เอกชนเพิ่ม เติม Backlog ไม่ต่ำกว่า 1,600 ล้านบาท ดันรายได้โตตามเป้าประมาณ 2,600 ล้านบาท เดินหน้าก่อสร้างบ.ย่อย ชาลี ท็อป โลจิสติกส์ โซลูชั่น คาดให้บริการ Q4/2566
นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) (CCP) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง 2566 เติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก บริษัทคว้างานโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐเพิ่ม โดยอยู่ระหว่างทยอยส่งมอบงานในปลายไตรมาส 2- ไตรมาส 4/ 2566 อีกทั้ง ปัจจัยสนับสนุนจาก การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐโดยเฉพาะในเขตพื้นที่ EEC มีแนวโน้มเร่งตัวก่อสร้างตามแผนพัฒนาระยะที่ 2 รวมถึง ได้รับอานิสงส์จากการย้ายฐานการผลิต ของนักลงทุนต่างชาติตั้งโรงงานในประเทศไทยผลักดันให้เกิดการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชนมากขึ้น หนุนความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป (Precast) เพิ่มขึ้น อาทิ บ่อพัก รางระบายน้ำ ท่อระบายน้ำขนาดพิเศษ
ขณะที่ บริษัทเร่งเดินหน้าปรับปรุงโรงงานการผลิต เตรียมลงทุนเครื่องจักรใหม่เพิ่มประสิทธิภาพ ยกระดับกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้ารับงานหลากหลายช่วยลดต้นทุนแรงงาน ลดความผิดพลาด ความสูญเสียในการผลิต เพิ่มความสามารถทำกำไรอีกทั้ง พัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ คอนกรีตสำเร็จรูป ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รองรับงานโครงสร้างพื้นฐาน และงาน Landscape ทั่วประเทศ อาทิ กำแพงกันดินรุ่นใหม่ และ แผ่นทางเท้า รุ่นใหม่
นอกจากนี้ บริษัทพร้อมเดินหน้าประมูลงานภาครัฐ-เอกชน จากทั่วประเทศเข้ามาเพิ่มเติมอีกในช่วงครึ่งปีหลัง ควบคู่ การปรับกลยุทธ์เข้าประมูลงานโครงการระยะสั้น รับรู้รายได้เร็ว อาทิ งานถนน งานนิคมอุตสาหกรรม เพื่อรักษาระดับมูลค่างานในมือ (Backlog) ไว้ไม่ต่ำกว่า 1,600 ล้านบาท ผลักดันให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ประมาณ 2,600 ล้านบาท ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ภาครัฐ 60% เอกชน 40%
สำหรับการร่วมมือพันธมิตรทางธุรกิจ จัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท ชาลี ท็อป โลจิสติกส์ โซลูชั่น จำกัด ดำเนินธุรกิจให้บริการบริหารจัดการคลังสินค้า เขตปลอดอากร (Free Zone) ในโซนแหลมฉบัง และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคาร และขอใบอนุญาต ซึ่ง คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการเฟสแรกได้ภายในไตรมาส 4/2566 ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทเติบโตต่อเนื่อง