สมาคมนักวิเคราะห์ฯ คาด SET ครึ่งปีหลังฟื้นตัว แนวโน้ม Sideway มองสิ้นปีนี้ 1,630 จุด

สมาคมนักวิเคราะห์ฯ คาด SET ครึ่งปีหลังมีโอกาสฟื้นตัว แนวโน้ม Sideways สิ้นปีนี้ 1,630 จุด พร้อมแนะนำ 5 หุ้นเด่น และเลี่ยงลงทุน DELTA เหตุราคาสูงเกินปัจจัยพื้นฐาน

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) เผยว่า ดัชนีราคาหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 3/66 มีแนวโน้ม Sideways หรือ ไม่เปลี่ยนแปลงไปมากจากไตรมาส 2/66 โดยค่าเฉลี่ยดัชนีหุ้นไทยสิ้นไตรมาส 3/66 คาดอยู่ที่ 1,568 จุด ซึ่งหากมองไปถึงปลายปีนี้ดัชนีจะอยู่ที่ 1,630 จุด โดยปัจจัยที่ทีผลต่อตลาดหุ้นมากที่สุด คือ เศรษฐกิจภายในประเทศ ในขณะที่ปัจจัยลบ คือ เศรษฐกิจในยุโรป และ ทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐSET Index จากไตรมาส 3/66 ไปถึงสิ้นปีนี้คาดจะแกว่งตัวในกรอบ 1,454-1,643 จุด และ คาดว่า สิ้นปีนี้จะปิดที่ 1,630 จุด โดยปัจจัยที่ควรจับตามองในไตรมาส 3 คือ การจัดตั้งรัฐบาลการเมืองในประเทศ ทิศทางดอกเบี้ยของ FED และ ภาวะเศรษฐกิจโลก

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เผยว่า ไตรมาส 3/66 ซึ่งเป็นช่วงจัดตั้งรัฐบาล ผลสำรวจมองตลาด Sideway เนื่องจากการเมืองยังมีความไม่แน่นอน แต่หลังจากนี้ตลาดค่อนข้างจะเอื้อต่อการฟื้นตัว ถ้าเกิดการจัดตั้งรัฐบาลราบรื่น ไม่มีประเด็นที่ทำให้เกิดความกังวล โดยเฉพาะช่วงกลางเดือน ก.ค.การเมืองน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นและสามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ไม่ว่าจะเป็นพรรคก้าวไกลหรือพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็คาดว่าตลาดจะตอบรับในเชิงบวก  อย่างไรก็ดี หากการจัดตั้งรัฐบาลเกิดพลิกขั้ว จะทำให้ตลาดเกิดความไม่แน่นอน ดังนั้น ตลาดอาจชะลอลงเพื่อรอดูความเสี่ยง รวมทั้งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการพลิกขั้ว และ อาจเกิดสภาวะ Overhang ในช่วงสั้นๆ

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ได้เพิ่มเติมข้อเสนอแนะรัฐบาลใหม่เกี่ยวกับนโยบายที่มีผลบวกต่อภาวะเศรษฐกิจ โดยเสนอให้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แยกเป็นนโยบายกระตุ้นการลงทุนและช่วยเหลือภาคธุรกิจ ได้แก่ กระตุ้นการลงทุนจากต่างประเทศ ขยายตลาดสินค้าส่งออก ถัดมา ควรเร่งลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยสนับสนุนศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ และตามมาด้วย การออกนโยบายช่วยเหลือภาคประชน ได้แก่ ชะลอการเก็บภาษีหุ้น ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ออกมาตรการลดค่าครองชีพ แทนการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และยกเลิกนโยบายแจกเงิน

รายชื่อหุ้นที่นักวิเคราะห์แนะนำโดยมีจำนวนสำนักวิเคราะห์แนะนำตรงกันตั้งแต่ 5 สำนักขึ้นไป ดังนี้ (เรียงชื่อตามอักษรย่อ)

1. ADVANC มองว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมลดลง ส่งผลดีต่อธุรกิจ

2. AOT โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว

3. BBL โดยมองว่า มีความเชี่ยวชาญสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ โดยมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในตลาดนี้ สินเชื่อประเภทนี้แม้จะมีผลตอบแทนต่ำ แต่ก็มีความเสี่ยงต่ำ นอกจากนั้น BBL มีสินเชื่อส่วนใหญ่คิดอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว และมีเงินฝากประจำสัดส่วนสูง 

4. CPALL ปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคเพิ่ม นักท่องเที่ยวฟื้นตัว

5. SCB มองว่าได้ประโยชน์จาก กนง.เปิดช่องขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลดีต่อหุ้นแบงก์โดยรวม ทั้งราคายัง Laggard กลุ่ม

สำหรับหุ้นที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ DELTA เกินมูลค่าปัจจัยพื้นฐานไปมาก และ กลุ่มหุ้นที่อาจได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐบาลใหม่ โดยอยากที่จะแนะนำไปยังรัฐบาลใหม่เกี่ยวกับนโยบายที่จะมีผลบวกต่อภาวะเศรษฐกิจ คุ้มค่ากับผลกระทบทางงบประมาณ โดยส่วนใหญ่กล่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

#SET #IPO #StockReview #ข่าวหุ้น #วิเคราะห์หุ้น #DELTA #BBL #CPALL #NPL #ADVANC #AOT #SCB