บมจ.วัน ออริจิ้น หรือ ONEO หนึ่งในผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลุ่มโรงแรมและการบริการ
(Hospitality) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (Filing) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เตรียมเสนอขายหุ้น IPO
จำนวนไม่เกิน 702,800,000 หุ้น ชูโมเดลธุรกิจสร้างรายได้ประจำอย่างต่อเนื่อง
และกระจายตัวจาก
4 กลุ่มธุรกิจหลัก ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจโรงแรมและบริการ (Hospitality) กลุ่มธุรกิจพื้นที่ค้าปลีกและอาคารสำนักงาน (Retail and Office
Building) กลุ่มธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้อง พร้อมมุ่งขยายธุรกิจขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
นายปิติ จารุกำจร
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด (มหาชน) (“ONEO”) เปิดเผยว่า
ONEO เป็นผู้พัฒนาและดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ
(Hospitality) และอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าชั้นนำในประเทศไทยที่สร้างรายได้ประจำอย่างต่อเนื่อง
(Recurring Income Business) และเป็นบริษัทเรือธงในธุรกิจดังกล่าวของกลุ่มบริษัท
ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร โดย ONEO มีธุรกิจครอบคลุม 4 กลุ่มหลัก ซึ่ง ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ได้แก่ 1) กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality) ซึ่งรวมถึงโรงแรม
และเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ (Serviced Apartment) ซึ่งได้เปิดดำเนินการแล้ว
7 โครงการ มีห้องพักรวมจำนวน 1,579 ห้อง
และอยู่ระหว่างการพัฒนารอเปิดดำเนินการ 12 โครงการ
มีห้องพักรวมประมาณ 4,343 ห้อง 2) กลุ่มธุรกิจพื้นที่ค้าปลีกและอาคารสำนักงาน (Retail
and Office Building) หรือกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์
มีพื้นที่ค้าปลีก (Community Mall) เปิดดำเนินการแล้ว 1
โครงการ พื้นที่เช่าสุทธิรวม 2,053 ตารางเมตร และอยู่ระหว่างการพัฒนารอเปิดดำเนินการ
4 โครงการ พื้นที่เช่าสุทธิรวมประมาณ 16,720 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังมีอาคารสำนักงานรอเปิดดำเนินการ 2 แห่ง พื้นที่เช่าสุทธิรวมประมาณ 59,869 ตารางเมตร 3)
กลุ่มธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม 5 ร้าน อยู่ระหว่างรอเปิดดำเนินการอีก
4 ร้าน และ 4) ธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงการให้บริการด้านการบริหารโครงการในกลุ่มธุรกิจของ
ONEO จำนวน 12 บริษัท และการบริหารจัดการโปรแกรมการลงทุนอสังหาริมทรัพย์
(Investment Property) หรือโปรแกรมแฮมป์ตัน จำนวน 7 โครงการ โดยในส่วนของโปรแกรมแฮมป์ตันอยู่ระหว่างรอดำเนินการอีก 6 โครงการ
ทั้งนี้ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร ทำให้
ONEO มีรายได้กระจายตัวจาก 4 กลุ่มธุรกิจหลักดังกล่าว และมีฐานลูกค้าที่หลากหลายพื้นที่ทั้งแหล่งท่องเที่ยวหลักในประเทศไทย
อาทิ กรุงเทพฯ ภูเก็ต กระบี่ หัวหิน และในพื้นที่ใกล้นิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
หรือ Eastern Economic Corridor (“EEC”) ที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจค่อนข้างสูง
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บมจ.วัน
ออริจิ้น กล่าวต่อว่า ONEO มีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการบริการ
ด้วยความมุ่งมั่นและสร้างสรรค์ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า
ตลอดจนการสร้างผลตอบแทนที่เติบโตอย่างยั่งยืน ต่อผู้ลงทุน ควบคู่กับการดูแลพนักงาน
พันธมิตร และรับผิดชอบต่อสังคม
ล่าสุด ONEO ได้แต่งตั้งธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และได้ยื่นแบบคำขออนุญาตออกและเสนอขายหลักทรัพย์
และร่างแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง)
ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน
(IPO) จำนวน 702,800,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้
(พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 26.0 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ
ONEO ภายหลังเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ แบ่งเป็น หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก
(IPO) จำนวนไม่เกิน 675,668,000
หุ้น หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายแก่กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานของ
ORI และบริษัทย่อยของ ORI จำนวนไม่เกิน
22,701,000 หุ้น รวมทั้งหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 4,431,000 หุ้น ที่เสนอขายแก่กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือ พนักงานของ
ONEO และบริษัทย่อยของ ONEO ตามโครงการ ESOP (Employee Stock
Option Program) ที่ราคาเดียวกับการเสนอขายประชาชนทั่วไป นอกจากนี้ ONEO มีการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 4,600,000 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน
(ESOP
Warrant) ที่ออกและเสนอขายให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือ พนักงานของ
ONEO และบริษัทย่อยของ ONEO ตามโครงการ ESOP Warrant
ทั้งนี้ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้
และการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (ESOP Warrant) ภายใต้สมมติฐานว่ามีการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนและการใช้ตามใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งจำนวน
จะส่งผลให้ ONEO มีทุนชำระแล้วเพิ่มเป็น 1,353,700,000
บาท คิดเป็นจำนวน 2,707,400,000 หุ้น
มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท
จากทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว 1,000,000,000 บาท โดยวัตถุประสงค์ของการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนสำหรับการพัฒนาโครงการ และ/หรือการขยายธุรกิจ
และเพื่อชำระเงินกู้ยืม รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงานของ
ONEO