ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมสื่อและโฆษณาต้องเผชิญความท้าทายกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 วิกฤตเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างมาก การที่จะเข้าถึงผู้บริโภคให้ได้ต้องมีการปรับเปลี่ยน ปรับปรุงกลยุทธ์ในการนำเสนอ เพื่อชิงความได้เปรียบทางการตลาด
เทรนด์ (Trend-แนวโน้ม) สื่อในปี 2023
1. VOD (Video on Demand) หรือวิดีโอสตรีมมิ่งแบบมีโฆษณาจะได้รับความนิยมมากกว่าแบบไม่มีโฆษณา
- พฤติกรรมการดูสตรีมมิ่งของคนไทยวันนี้เหมือนการดูทีวีปกติ โดยคนไทย 57% ดูสตรีมมิ่งแบบ วิดีโอออนดีมานด์ (VOD) คือ เลือกดูคอนเทนต์ในเวลาที่ต้องการดู หรือดูย้อนหลัง เป็นการดูคอนเทนต์ที่มีโฆษณาแทรก (AVOD : Advertising Based Video on Demand) 74.2% และดูแบบสมัครสมาชิกจ่ายค่าบริการไม่มีโฆษณา (SVOD : Subcription Video on Demand) 25.8%
- โดย 5 อันดับแรกของ วิดีโอออนดีมานด์ ที่มีผู้ชมสูงสุด คือ 1. YouTube 2. Facebook 3. Netflix 4. TrueID 5. Viu
- พบว่าเทรนด์สตรีมมิ่งที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ จากแพลตฟอร์มวิดีโอออนดีมานด์ขนาดใหญ่ เช่น Netflix เริ่มให้บริการแพ็กเกจมีโฆษณา ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเช่นกัน
- อีกแนวโน้มคือ FAST (Free Ad Supported TV) ดูสตรีมมิ่งผ่านผังรายการปกติของทีวี หรือ ดูสดผ่านออนไลน์ และดูโฆษณาแทรกระหว่างรายการ เป็นเทรนด์ที่เติบโตสูง เช่น แอพพลิเคชั่นของสถานีทีวี ที่ให้บริการดูสดออนไลน์ มีคนดูเพิ่มขึ้น 36% ในปี 2022 เติบโตต่อเนื่องจากปี 2021 ที่เติบโต 32%
สรุปภาพรวม 3 สื่อหลัก ที่มีอิทธิพลต่อคนไทยมากที่สุด
1. ทีวี 75% (ก่อนโควิด 80%)
2. ออนไลน์ 80% (ก่อนโควิด 70%)
3. สื่อนอกบ้าน (OOH) 35% (ก่อนโควิด 35%)
ถึงแม้ตัวเลขของสื่อทีวี จะลดลง
แต่การรับชม Video on demand หรือแอพพลิเคชั่น
และวิดีโอสตรีมมิ่ง กลับมาเพิ่มขึ้น เพราะคนไทยนิยมเสพคอนเทนต์วิดีโอ
92%
ของคนไทยเลือกดูมากกว่า 1 แพลตฟอร์ม
71%
คนไทยยอมดูแพลตฟอร์มที่มีโฆษณา
26 ล้านคน หรือคนไทย 1 ใน 3 ดูผ่าน OTT
18 ล้านคน
จำนวนคนไทยเข้าถึงแพลตฟอร์ม OTT
“จุดนี้สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยยอมดูโฆษณาเพื่อแลกกับการดูคอนเทนต์
พฤติกรรมนี้ถือเป็นโอกาสของแบรนด์
นักการตลาดที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคผ่านช่องทางวิดีโอออนดีมานด์
สตรีมมิ่งดูสดออนไลน์”
2. แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมจากคนไทย
Facebook 44 ล้านผู้ใช้ กลุ่มหลักอายุ 18-44 ปี ใช้อัพเดทข้อมูลข่าวสาร
YouTube 38 ล้านผู้ใช้
ทุกช่วงอายุ คอนเทนต์บันเทิงและแรงบันดาลใจ
Instagram 23 ล้านผู้ใช้
กลุ่มหลัก 18-35 ปี
คอนเทนต์โฟโต้บุ๊ก
Twitter 8 ล้านผู้ใช้
กลุ่มหลัก 16-29 ปี
อัพเดทเทรนด์และข่าวสาร แสดงความคิดเห็น
Line 50 ล้านผู้ใช้
ทุกช่วงอายุ ใช้งานแชท
TikTok 27 ล้านผู้ใช้
กลุ่มหลัก 18-35 ปี คลิปสั้น
คอนเทนต์บันเทิง
แพลตฟอร์มที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นคือ Discord กลุ่มเล่นเกม และ RAVE แชร์ดูคอนเทนต์ร่วมกับเพื่อนหรือครอบครัว
ส่อง 8 เทรนด์ยอดนิยมและ
2 เทรนด์ใหม่มาแรง
8 เทรนด์ยอดนิยม
1. FOMO (Fear of Missing Out) กลุ่มกลัวตกกระแส
ต้องตามและเป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์ เช่น TikTok
Challenge
2. AUTO กลุ่มคนสนใจยานยนต์
เห็นได้จากกระแสมาแรงของรถพลังงานไฟฟ้า (EV) รวมทั้ง
การแต่งและแข่งรถ
3. Cooking & Baking กลุ่มนิยมการทำอาหารเพื่อความสุข
ธุรกิจ หรือสร้างคอนเทนต์
4. Sport กลุ่มคนสนใจกีฬา
เช่น กลุ่มนักปั่นจักรยาน โยคะ รวมถึงแฟนฟุตบอล
5. Health / Fitness / Runners กลุ่มดูแลสุขภาพ
เช่น ออกกำลังกาย กินอาหารคลีน จนถึงการวิ่ง
6. HipHop / Rapper / EDM กลุ่มคนที่นิยมแนวเพลงต่างๆ
แฟนคลับ และผู้ชื่นชอบแฟชั่นตามแนวเพลงหรือศิลปิน
7. Pet Lovers กลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยง
8. Brand Name Loves กลุ่มคนรักสินค้าแบรนด์เนม
สะสมนาฬิกา เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ทั้งใช้เองและลงทุน
2 เทรนด์มาแรง
1. Nostalgia กลุ่มคนโหยหาอดีต มีความสุขกับวันวาน เช่น นิยมถ่ายกล้องฟิล์ม หรือ สะสมสินค้า Original Logo
2. Wellness Initiatives กลุ่มคนที่มองหาความสมดุลชีวิต
มีความสนใจหลากหลาย เป็นกลุ่มใหม่ที่น่าสนใจ