ปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่ากระแสความสนใจในพลังงานสะอาดเพิ่มสูงขึ้น หลายประเทศหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การตระหนักและตื่นตัวต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะภาคธุรกิจสีเขียว ที่ถือเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยเหตุนี้ ทำให้เทรนด์ธุรกิจสีเขียว (Green Business) เป็นอุตสาหกรรทั่วโลกที่กำลังปรับสู่ New Business Model ไปสู่อุตสาหกรรมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่าที่สุด ส่งผลเสียต่อโลกให้น้อยที่สุด จนเกิดเป็นธุรกิจสีเขียวที่กำลังมาแรง เป็นอุตสาหกรรมที่นักวิเคราะห์ฟันธงว่า นี่คือธุรกิจแห่งอนาคต ธุรกิจสีเขียวที่เป็นจับตามองอยู่ในขณะที่ได้แก่
1.ธุรกิจสินค้าวัตถุดิบย่อยสลายง่ายและนำกลับมาใช้ซ้ำ
ปัจจุบันปัญหาขยะถือเป็นปัญหาใหญ่ของโลก
ผู้บริโภคพยายามลดปริมาณขยะ มีการผลิตสินค้าที่สามารถใช้ซ้ำและนำกลับมาใช้ใหม่
และสินค้าที่ย่อยสลายง่ายที่เริ่มเป็นที่นิยมอยู่ในตอนนี้ที่ย่อยสลายง่าย
สามารถนำกลับมาใช้ได้อีกเพื่อลดการใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งลง เช่น
กล่องข้าวชานอ้อยที่ร้านอาหารบางร้านใช้แทนกล่องโฟม หรือกล่องพลาสติก
ถ้วย-ชามใยกล้วย หลอดดูดน้ำไม้ไผ่ หรือถุงพลาสติกที่ผลิตจากจากมันสำปะหลังซึ่งสามารถย่อยสลายได้ภายใน
180 วัน แทนถุงพลาสติกที่ใช้เวลาย่อยสลาย 450 ปี
ส่วนตัวอย่างธุรกิจการนำกลับมาใช้ซ้ำ เช่น ธุรกิจสตาร์ทอัพแบรนด์ Moreloop ที่นำเศษผ้าที่เหลือจากการตัดมารวมกัน และนำเศษเหล่านั้นมาตัดเป็นเสื้อผ้าใหม่เพื่อลดขยะ ธุรกิจผลิตถุงส่งของสำหรับร้านค้าออนไลน์ ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล 100% โดยออกแบบถุงให้มีลักษณะคล้ายกับผืนผ้าใบที่มีคุณสมบัติกันน้ำและทนต่อการฉีกขาด สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้
2. สินค้าหรือบริการที่ใช้พลังงานสะอาด
อีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังมาแรงและเป็นที่ถูกจับตาอยู่ในขณะนี้คือธุรกิจพลังงานสะอาด
อาทิ รถยนต์พลังงานสะอาดที่สร้างขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหารถยนต์ทั่วไปที่ถูกมองว่าเป็นปัญหาหลักของภาวะโลกร้อน
รวมถึงกลุ่มสินค้าที่มารองรับธุรกิจเหล่านี้ เช่น ศูนย์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
โดยในตอนนี้เริ่มมีศูนย์ชาร์จรถยนต์ของค่ายรถต่าง ๆ กระจายอยู่ในห้างสรรพสินค้า
คอนโดมิเนียมและโรงแรม หรือตามสถานีน้ำมันต่าง ๆ
นอกจากเรื่องธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า อีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจ คือโซลาเซลล์ที่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ มีทั้งหลังคาโซลาเซลล์, ฟาร์มโซลาเซลล์, ไปจนถึงแผง หลอดไฟ และอื่น ๆ อีกมากมาย ถือเป็นธุรกิจที่สามารถต่อยอดได้อีกไกล
3. ธุรกิจร้าน Refill
Store เติมเท่าไหร่จ่ายเท่านั้น
กลุ่มสินค้าและบริการที่มีการลดบรรจุภัณฑ์จากพลาสติก
โดยการให้ลูกค้านำขวด แก้วน้ำ ถุงต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วนำมาเติมผลิตภัณฑ์จากทางร้านกลับไป
เช่น ร้านกาแฟ ซุปเปอร์มาเก็ตต่าง ตลาด ร้านค้า ที่มีการรณรงค์ให้นำถุงผ้ามาใช้ใส่สินค้ากลับไป
รวมถึงของใช้ในครัวเรือนในชีวิตประจำวัน เช่น แชมพู น้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจาน
อาหารต่าง ๆ เช่น น้ำผึ้ง น้ำมันพืช ข้าวสาร ธัญพืช คิดราคาตามน้ำหนัก
ปัจจุบันร้าน ร้าน Refill Store ประมาณ 10 กว่าแห่งทั้งในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต เป็นต้น ซึ่งกระจายอยู่ตามคอมมูนิตี้มอลล์ ห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟฟ้า BTS และในมหาวิทยาลัย ทำให้ผู้บริโภคสามารถหาซื้อสะดวกยิ่งขึ้น บางแห่งทำเป็นทั้งที่พัก คาเฟ่ มุมขายของอีโค่ มุมรีฟิลบนพื้นที่เดียวกัน เนื่องด้วยธุรกิจสีเขียวกำลังมาแรง คาดว่าในอนาคตจะมีร้านค้าและคาเฟ่แนวรักษ์โลกแบบนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
4. ธุรกิจสินค้า Eco ที่มีดีไซน์ตอบสนองคนรุ่นใหม่
และบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบันมีผู้ประกอบการหลายแห่งที่สามารถดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคให้หันมาเลือกซื้อสินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นได้
โดยดีไซน์ผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีบริการโฮสเทลแนวอีโค่ที่มีพื้นที่รับแสงและลมธรรมชาติ
ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า มีพื้นทีสีเขียวหรือแปลงผัดดาดฟ้าให้ผู้เข้าพักได้เข้าถึงธรรมชาติได้
เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ไบโอ และธุรกิจอาหารที่เปลี่ยนพืชให้มีรสชาติเหมือนเนื้อสัตว์ (Plant based) หรือ วีแกน หรือจะเป็นธุรกิจที่ใช้ไม้ไผ่ฟางข้าวมาต่อยอด เพิ่มมูลค่าให้กลายเป็นสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็น่าสนใจเช่นเดียวกัน
แนวคิดในการดูแลสิ่งแวดล้อม
นับเป็นเทรนด์ของการรักษ์โลกที่น่าสนใจและน่าติดตามเป็นอย่างมาก รวมไปถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่
ๆ เชื่อว่าคงจะมีออกมาให้เห็นเรื่อย ๆ เพราะการตื่นตัวของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจกับเทรนด์การรักษ์โลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
จะส่งผลผลักดันให้ธุรกิจด้านนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น